นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอรัฐบาลและแกนนำเสื้อแดงพบกันคนละครึ่งทาง ถอยคนละก้าว และต้องจริงใจต่อกัน โดยรัฐบาลจะต้องพูดให้ชัดว่า จะแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเมื่อใด และจะยุบสภาเมื่อใด แต่หากยุบในช่วงเวลานี้มองว่ายังเร็วเกินไป โดยมองว่าช่วงสิ้นปี 2553 เป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศกำลังดีอยู่ ถ้ายุบสภาก็จะเกิดปัญหาขึ้นมากมาย ซึ่งเสื้อแดงก็เองต้องโอนอ่อนผ่อนปรนด้วย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็แล้วแต่รัฐบาลจะตัดสินใจ แต่หากรัฐบาลมีการกำหนดเวลาที่แน่นอน และระหว่างนี้ควรจะทำอะไรบ้าง ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จภายในกี่เดือน หลังจากนั้นจึงยุบสภาก็เชื่อว่าจะไปด้วยกันได้ แต่ไม่ควรทำประชามติเพราะจะใช้เวลานาน ซึ่งมองว่าไม่จำเป็น เพราะเราทราบปัญหาอยู่แล้วว่าข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มีอะไรบ้าง ส่วนการเจรจากันนั้น มองว่านายกรัฐมนตรีควรไปด้วยตัวเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคนเสื้อแดงก็ต้องมีธงอยู่ในใจด้วย อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงบ้านเมือง หากเจรจากันไม่ได้
ทั้งนี้ นายบรรหาร ยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีสัจจะ แต่การร่วมหรือถอนตัวจากรัฐบาลก็ต้องอยู่บนเหตุและผล ซึ่งยอมรับว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยด้วย โดยได้ขอให้ช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งตนก็ตอบไปว่าตอนนี้ตนทำอะไรมากไม่ได้ พร้อมกันนี้ นายบรรหาร ยอมรับด้วยว่า กลัวระเบิด หลังถูกคนร้ายขว้าง M67 เข้าใส่รั้วบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายบรรหาร ยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีสัจจะ แต่การร่วมหรือถอนตัวจากรัฐบาลก็ต้องอยู่บนเหตุและผล ซึ่งยอมรับว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยด้วย โดยได้ขอให้ช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งตนก็ตอบไปว่าตอนนี้ตนทำอะไรมากไม่ได้ พร้อมกันนี้ นายบรรหาร ยอมรับด้วยว่า กลัวระเบิด หลังถูกคนร้ายขว้าง M67 เข้าใส่รั้วบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา