นายวีระ มุกสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ทั้งนายกรัฐมนตรี และคนเสื้อแดง ถือเป็นเหยื่อของการยึดอำนาจของปี 2549 ฉะนั้นการยุบสภา ถือว่าเป็นการทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนไปตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองในการรณรงค์ว่า สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำยืนยันว่า ไม่ควรให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันก่อน และค่อยเลือกตั้งใหม่
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดง และยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ซื้อเวลา และมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพราะหากมีการซื้อเวลาและไม่จริงใจจะไม่สามารถอยู่ในเวทีการเมืองได้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีมาในฐานะนายกรัฐมนตรี คงจะต้องนำข้อสรุปที่ได้ไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล หารือกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงจะให้ทุกภาคส่วนของสังคมมาร่วมกันกำหนด ในแนวทางแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง มากกว่าที่จะให้เฉพาะกลุ่มเสื้อแดงกับรัฐบาลคุยกันเพียง 2 ฝ่ายเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะต้องมีการกำหนดกรอบที่จะพูดคุยกับฝ่ายต่างๆก่อน เพราะเบื้องต้นการยุบสภาถ้าทำตอนนี้ โดยที่ไม่ได้ฟังเสียงจากฝ่ายอื่น อาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมาได้ และไม่อยากแก้ปัญหาวันนี้ แล้วนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ทางแกนนำยืนยันว่า ไม่ควรให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันก่อน และค่อยเลือกตั้งใหม่
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดง และยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ซื้อเวลา และมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา เพราะหากมีการซื้อเวลาและไม่จริงใจจะไม่สามารถอยู่ในเวทีการเมืองได้
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีมาในฐานะนายกรัฐมนตรี คงจะต้องนำข้อสรุปที่ได้ไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล หารือกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงจะให้ทุกภาคส่วนของสังคมมาร่วมกันกำหนด ในแนวทางแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง มากกว่าที่จะให้เฉพาะกลุ่มเสื้อแดงกับรัฐบาลคุยกันเพียง 2 ฝ่ายเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะต้องมีการกำหนดกรอบที่จะพูดคุยกับฝ่ายต่างๆก่อน เพราะเบื้องต้นการยุบสภาถ้าทำตอนนี้ โดยที่ไม่ได้ฟังเสียงจากฝ่ายอื่น อาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ตามมาได้ และไม่อยากแก้ปัญหาวันนี้ แล้วนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต
