นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การทำหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จะเป็นเพียงผู้เชื่อมให้เกิดการเจรจาขึ้น ซึ่งหลังจากที่นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวร่วมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแล้ว ตนเองทราบว่า มีการเสนอเงื่อนไขกลับมาจากทางแกนนำผู้ชุมนุมว่า ต้องการให้มีการยุบสภา ต้องลงสัตยาบันรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้แกนนำผู้ชุมนุมอาจเข้าใจผิด โดยชั้นต้น ทุกฝ่ายต้องตกลงเรื่องการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบจริงๆ เมื่อบรรยากาศเข้าที่แล้วค่อยหารือถึงเงื่อนไขของแต่ละฝ่าย ซึ่งโดยลำดับน่าจะเป็นเช่นนี้ ส่วนเรื่องตัวบุคคลที่จะเข้าเจรจานั้น ทราบว่าทางผู้ชุมนุมมีการกำหนดตัวบ้างแล้ว เพียงแต่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ยังไม่ส่งรายละเอียดมาให้ จึงยังไม่ทราบว่าเสนอใครมาบ้าง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องตัวบุคคล ที่มีผู้พยายามอยากให้นายกรัฐมนตรีและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มานั่งเจรจากันนั้น ตนเองเชื่อว่าไม่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจากเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เกินอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะไปคุยได้ เพราะไม่มีอำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ส่วนเรื่องการต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ยืนยันว่า ไม่มีการหารือกันในที่ประชุม ศอ.รส.แต่อย่างใด
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องตัวบุคคล ที่มีผู้พยายามอยากให้นายกรัฐมนตรีและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มานั่งเจรจากันนั้น ตนเองเชื่อว่าไม่สามารถทำได้แล้ว เนื่องจากเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เกินอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะไปคุยได้ เพราะไม่มีอำนาจแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
ส่วนเรื่องการต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ยืนยันว่า ไม่มีการหารือกันในที่ประชุม ศอ.รส.แต่อย่างใด