กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น
สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฟ้าหลัวและอากาศเย็นในตอนเช้ากับอุณหภูมิสูงขึ้นในตอนกลางวัน ลมอ่อน ความเร็ว 6-10 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาสตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป:ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กในอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฟ้าหลัวและอากาศเย็นในตอนเช้ากับอุณหภูมิสูงขึ้นในตอนกลางวัน ลมอ่อน ความเร็ว 6-10 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้าและอุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวัน ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาสตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป:ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะสูงขึ้นในตอนกลางวันและมีฟ้าหลัว ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.