นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ หรือ ศอรส. ย้ำว่า ผู้ชุมนุมต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการบุกรุกสถานที่ราชการ หรือเคหสถาน ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าสลายการชุมนุมตามหลักสากลทันที เริ่มต้นจากการเจรจา การจับกุม การใช้น้ำฉีด และแก๊สน้ำตา ขณะเดียวกันหากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามบุกรุกค่ายทหาร กองบัญชาการตำรวจที่มีอาวุธของราชการเก็บไว้ เจ้าหน้าที่จะเข้าสลายการชุมนุมทันที เพราะถือว่าเป็นการก่อการร้าย และปล้นอาวุธเพื่อมาก่อเหตุวุ่นวาย พร้อมระบุ หากเกิดเหตุอะไรขึ้นขอเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมปฏิบัติการ 50,000 นาย จะไม่มีการพกอาวุธ เว้นแต่สายตรวจพิเศษ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท ที่สามารถพกพาอาวุธได้ และมีเครื่องหมายแสดงสัญลักษณ์ที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการแต่งกายเรียนแบบและก่อเหตุ หากพบมีการแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการจับกุมทันที
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ยืนยันว่า ห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ทุกเส้นทางมุ่งหน้าโรงพยาบาลศิริราช ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ ต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน และพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภาในกรณีที่เป็นการข่มขู่
นายสุเทพ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมปฏิบัติการ 50,000 นาย จะไม่มีการพกอาวุธ เว้นแต่สายตรวจพิเศษ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาท ที่สามารถพกพาอาวุธได้ และมีเครื่องหมายแสดงสัญลักษณ์ที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการแต่งกายเรียนแบบและก่อเหตุ หากพบมีการแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการจับกุมทันที
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ยืนยันว่า ห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ทุกเส้นทางมุ่งหน้าโรงพยาบาลศิริราช ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ ต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน และพร้อมรับฟังข้อเสนอจากทุกฝ่าย โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภาในกรณีที่เป็นการข่มขู่