นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการดำเนินการภายหลังศาลมีคำพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 46,000 ล้านบาท ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งได้สั่งการไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้มีระยะเวลาดำเนินการให้เสร็จสิ้นใน 2 สัปดาห์ หรือกลางเดือนนี้ ส่วนการจะฟ้องร้อง หรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือไม่อย่างไรนั้น ทางบริษัทคงต้องวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียให้ชัดเจนก่อน เพื่อเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อตัดสินใจอีกครั้งว่าจะดำเนินการแค่ไหนอย่างไร
อย่างไรก็ตาม บริษัท ทีโอที ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเซลลูลาร์ ที่มีการปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ต้องจ่ายให้ กรณีให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบบัตรเติมเงิน หรือ ระบบ Pre-paid เหลือร้อยละ 20 จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้าในอัตราร้อยละ 25-30 และการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเซลลูลาร์ โดยมีการปรับลดอัตราค่าใช้เครือข่ายร่วม หรือโรมมิ่ง (Roaming) โดยให้บริษัทเอไอเอสฯ สามารถใช้เครือข่ายร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่น มีผลทำให้บริษัทเอไอเอสฯ ไม่ต้องจ่ายเงินกว่า 18,970,579,711 บาท (1.8 หมื่นล้านบาทเศษ)
อย่างไรก็ตาม บริษัท ทีโอที ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเซลลูลาร์ ที่มีการปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ต้องจ่ายให้ กรณีให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบบัตรเติมเงิน หรือ ระบบ Pre-paid เหลือร้อยละ 20 จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้าในอัตราร้อยละ 25-30 และการแก้ไขสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเซลลูลาร์ โดยมีการปรับลดอัตราค่าใช้เครือข่ายร่วม หรือโรมมิ่ง (Roaming) โดยให้บริษัทเอไอเอสฯ สามารถใช้เครือข่ายร่วมกับผู้ให้บริการรายอื่น มีผลทำให้บริษัทเอไอเอสฯ ไม่ต้องจ่ายเงินกว่า 18,970,579,711 บาท (1.8 หมื่นล้านบาทเศษ)
