น.พ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สุขภาพจิตของคนไทยในช่วงนี้มีปัจจัยที่จะส่งผลกระทบ 3 เรื่อง คือ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว สุขภาพทางจิตของแต่ละคน และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเรียกว่า อาการความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมือง เกิดจากการรับข้อมูลข่าวสารมากและเกิดความเครียด ซึ่งต้องระมัดระวัง เพราะหากเครียดมากเกินไปจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยความเครียดลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง บรรดานักการเมือง แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย ผู้ติดตามข่าวสาร และกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพจิต โดยทุกกลุ่มสามารถเสี่ยงเกิดโรคเครียดทางการเมือง และอาจนำไปสู่การแก้ปัญหาชีวิตครอบครัวและสังคมด้วยการใช้กำลังและความรุนแรง ซึ่งอาการทางกายที่สังเกตได้ คือปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตึงบริเวณขมับ ต้นคอ หรือตามแขนขา นอนไม่หลับ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจไม่ทั่วท้อง แน่นช่องท้อง และปวดท้อง เป็นต้น ส่วนอาการทางใจจะมีความวิตกกังวล ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย โมโหฉุนเฉียว ก้าวร้าว ท้อแท้หมดหวัง ไม่มีสมาธิ และฟุ้งซ่าน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการเมือง ปิดรับข่าวสารทางการเมืองทุกชนิด และพักผ่อนให้เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องการเมือง ปิดรับข่าวสารทางการเมืองทุกชนิด และพักผ่อนให้เพียงพอ