นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารยังใช้เครื่องจีที 200 ตรวจวัตถุระเบิดบริเวณชายแดนแม่สอด จ.ตาก ว่า ตนย้ำไปแล้วว่าผู้ใช้ต้องรู้ถึงความเสี่ยง ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ จะให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำแผนมาว่า จะส่งบุคลากรไปทำความเข้าใจ และช่วยกระทรวงกลาโหมและกองทัพในการปรับแผนปฏิบัติงานอย่างไร เพื่อนำไปสู่การยกเลิกการใช้เครื่องมือนี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลย โดยจะให้ทุกหน่วยงานที่ใช้รายงานเข้ามาว่า ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า การใช้เครื่องมือนี้ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเรียกร้องขอให้ซื้อ เพราะเชื่อและมั่นใจว่าใช้ได้ แม้จะไม่มีการรองรับทางวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อไปตรวจพบระเบิดจริง ก็ไปสร้างความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ แต่เมื่อตรวจสอบทั้งหมดและพบว่า มีความไม่ชอบมาพากลก็ต้องจัดการ แต่ไม่ใช่ยังให้ใช้เพราะเกรงใจกองทัพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เครื่องตระกูลนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีกี่ยี่ห้อ มีหลักเหมือนกันหมด ซึ่งก็แปลว่า หากเป็นเรื่องหลอกลวงก็หลอกลวงด้วยกันทั้งหมด แต่มันไม่มีเครื่องอื่นที่จะทำงานลักษณะเดียวกัน มีแต่ตัวที่ต้องมีเป้าชัดในระดับหนึ่งแล้ว จึงจะเข้าไปทำงานต่อได้ ซึ่งให้พิจารณาอยู่ และเสนอว่าจะทดแทนด้วยอะไร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลย โดยจะให้ทุกหน่วยงานที่ใช้รายงานเข้ามาว่า ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า การใช้เครื่องมือนี้ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเรียกร้องขอให้ซื้อ เพราะเชื่อและมั่นใจว่าใช้ได้ แม้จะไม่มีการรองรับทางวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อไปตรวจพบระเบิดจริง ก็ไปสร้างความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ แต่เมื่อตรวจสอบทั้งหมดและพบว่า มีความไม่ชอบมาพากลก็ต้องจัดการ แต่ไม่ใช่ยังให้ใช้เพราะเกรงใจกองทัพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เครื่องตระกูลนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีกี่ยี่ห้อ มีหลักเหมือนกันหมด ซึ่งก็แปลว่า หากเป็นเรื่องหลอกลวงก็หลอกลวงด้วยกันทั้งหมด แต่มันไม่มีเครื่องอื่นที่จะทำงานลักษณะเดียวกัน มีแต่ตัวที่ต้องมีเป้าชัดในระดับหนึ่งแล้ว จึงจะเข้าไปทำงานต่อได้ ซึ่งให้พิจารณาอยู่ และเสนอว่าจะทดแทนด้วยอะไร