หวั่นเกรงว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 37 รายเมื่อวันพฤหัสบดี(18) หลังหิมะทลายลงมาทับหมู่บ้านแห่งหนึ่งตามเชิงเขาในพื้นที่ห่างไกลทางภาคเหนือของปากีสถาน ขณะที่ความหวังช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเริ่มเลือนลาง ตำรวจเผย
เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในตำบลโคฮิสถาน ซึ่งตั้งอยู่แนวเชิงเขาตามพรมแดนทางเหนือของปากีสถานและพื้นที่สวนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจากสภาพอากาศที่หนาวจัด ส่งผลให้ทีมช่วยเหลือเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างลำบาก
"เราพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ถูกฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง ไม่มีโอกาสเลยที่พวกเขาจะรอดชีวิต" ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพี "จากรายงานล่าสุดที่เรามี มีผู้คนอย่างน้อย 37 รายถูกฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง มันเป็นธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ หากมีใครติดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาเช่นนี้ คนๆนั้นก็คงไม่รอดแน่"
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวเสริมว่าทีมฉุกเฉินสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้ว 19 ศพจากเหตุหิมะทลายในตำบลโคฮิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงอิสลามาบัด 220 กิโลเมตร "เกิดหิมะทลายที่โคฮิสถาน...เรากังวลว่าอาจมีผู้หญิงและเด็กบางส่วนติดอยู่ภายในด้วย" พร้อมระบุต่อว่ามีบ้าน 4 หลังที่ได้รับความเสียหายยับเยิบ
เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในตำบลโคฮิสถาน ซึ่งตั้งอยู่แนวเชิงเขาตามพรมแดนทางเหนือของปากีสถานและพื้นที่สวนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจากสภาพอากาศที่หนาวจัด ส่งผลให้ทีมช่วยเหลือเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างลำบาก
"เราพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ แต่ยังมีอีกหลายคนที่ถูกฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง ไม่มีโอกาสเลยที่พวกเขาจะรอดชีวิต" ผู้บัญชาการตำรวจท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพี "จากรายงานล่าสุดที่เรามี มีผู้คนอย่างน้อย 37 รายถูกฝังอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง มันเป็นธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ หากมีใครติดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาเช่นนี้ คนๆนั้นก็คงไม่รอดแน่"
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวเสริมว่าทีมฉุกเฉินสามารถกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้ว 19 ศพจากเหตุหิมะทลายในตำบลโคฮิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงอิสลามาบัด 220 กิโลเมตร "เกิดหิมะทลายที่โคฮิสถาน...เรากังวลว่าอาจมีผู้หญิงและเด็กบางส่วนติดอยู่ภายในด้วย" พร้อมระบุต่อว่ามีบ้าน 4 หลังที่ได้รับความเสียหายยับเยิบ
