หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัลรายงานเมื่อวันพุธ (17)ว่า มีการโจมตีบนโลกไซเบอร์ โดยพวกคนร้ายที่มาจากยุโรปตะวันออกและจีน ทำงานในลักษณะประสานงานกัน และได้สร้างความเสียหายแก่บริษัทและหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลทั่วโลกอย่างหนักตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวอ้างข้อมูลจาก“เน็ต วิตเนสส์” ซึ่งเป็นบริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ที่ระบุว่า การระดมโจมตีโลกไซเบอร์จากจีนและยุโรปตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา มีผลทำให้ข้อมูลสำคัญๆจำนวนมาก เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต รวมทั้งข้อมูลด้านลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ตกอยู่ในภาวะเปราะบางอย่างยิ่งยวดต่อการถูกเจาะโดยพวกแฮกเกอร์
แม้จะยังไม่มีการประเมินความเสียหายออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็คาดว่าน่าจะมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีในช่วงที่ผ่านมามากกว่า 2,400 รายแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯราว 10 แห่งและบริษัทชั้นนำอีกมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้เน็ต วิตเนสส์ระบุว่า หลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมได้บ่งชี้ว่า เหล่าร้ายพวกนี้น่าจะเป็นพวกแก๊งอาชญากรรมในยุโรปตะวันออก
รายงานดังกล่าวอ้างข้อมูลจาก“เน็ต วิตเนสส์” ซึ่งเป็นบริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ที่ระบุว่า การระดมโจมตีโลกไซเบอร์จากจีนและยุโรปตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา มีผลทำให้ข้อมูลสำคัญๆจำนวนมาก เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต รวมทั้งข้อมูลด้านลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ตกอยู่ในภาวะเปราะบางอย่างยิ่งยวดต่อการถูกเจาะโดยพวกแฮกเกอร์
แม้จะยังไม่มีการประเมินความเสียหายออกมาเป็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็คาดว่าน่าจะมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีในช่วงที่ผ่านมามากกว่า 2,400 รายแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯราว 10 แห่งและบริษัทชั้นนำอีกมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้เน็ต วิตเนสส์ระบุว่า หลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมได้บ่งชี้ว่า เหล่าร้ายพวกนี้น่าจะเป็นพวกแก๊งอาชญากรรมในยุโรปตะวันออก