นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการเก็บตัวอย่างปุ๋ยในสหกรณ์ทั่วประเทศมาพิสูจน์ พบว่าปุ๋ยเคมี 180 ตัวอย่าง ไม่ผ่านมาตรฐานถึง 79 ตัวอย่าง คิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปุ๋ยอินทรีย์ จาก 27 ตัวอย่าง ไม่ผ่านมาตรฐานทั้งหมด ถือเป็นตัวเลขน่าตกใจ เพราะเป็นอันตรายต่อเกษตรกร จึงจะมีการส่งรายชื่อบริษัทที่จำหน่ายปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน ให้สหกรณ์หยุดซื้อและหยุดจำหน่ายปุ๋ยให้สมาชิกทันที หากพบสหกรณ์จำหน่ายปุ๋ยลักษณะนี้จะเพิกถอนสหกรณ์ด้วย นอกจากนั้นยังมีการขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายปุ๋ยไม่ได้มาตรฐาน ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กรมวิชาการเกษตรไปตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง
จากการตรวจสอบพบว่า มีขบวนการใหญ่หนุนหลัง จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรนั้น มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ในพื้นที่ 20-30 ล้านไร่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่น่าจะมีการใช้ปุ๋ยไม่ได้มาตรฐานมากที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จากการตรวจสอบพบว่า มีขบวนการใหญ่หนุนหลัง จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรนั้น มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ในพื้นที่ 20-30 ล้านไร่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่น่าจะมีการใช้ปุ๋ยไม่ได้มาตรฐานมากที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ