เหตุรถไฟโดยสาร 2 ขบวนชนกันรอบนอกกรุงงบรัสเซลส์ ระหว่างชั่วโมงเร่งด่วนเช้าวันจันทร์(15) มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 รายและบาดเจ็บถึง 125 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องสงสัยว่าสาเหตุอาจมาจากความบกพร่องของคนขับ
เหตุชนกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบลเยียม เกิดขึ้น ณ เวลาประมาณ 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 14.30 น.) เมื่อรถไฟสองขบวนที่มีผู้โดยสารมาเต็มคันรถขบวนหนึ่ง พุ่งเข้าชนประสานงากันท่ามกลางหิมะตกโปรยปราย แรงปะทะทำให้หัวรถจักรของทั้งสองขบวนกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ และตู้ที่เหลือบางส่วนพุ่งเข้ากระแทกกัน
อุบัติเหตุ เกิดขึ้นด้านนอกสถานีรถไฟแห่งหนึ่งใกล้เมืองอาล ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซลราว 15 กิโลเมตร โดยผู้ได้รับบาดเจ็บที่ร่างกายเต็มไปด้วยคราบเลือดถูกนำขึ้นเปลไปยังรถฉุกเฉิน ขณะที่แพทย์จำเป็นต้องปฏิบัติการตัดแขนตัดขาผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วน ณ ที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเพื่อสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ที่ผู้รอดชีวิตบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนต่อผู้โดยสาร ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเฟลมมิช บราบังท์ ระบุว่ารถไฟขบวนหนึ่งไม่ยอมจอด ณ สัญญาณไฟแดง
เหตุชนกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบลเยียม เกิดขึ้น ณ เวลาประมาณ 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 14.30 น.) เมื่อรถไฟสองขบวนที่มีผู้โดยสารมาเต็มคันรถขบวนหนึ่ง พุ่งเข้าชนประสานงากันท่ามกลางหิมะตกโปรยปราย แรงปะทะทำให้หัวรถจักรของทั้งสองขบวนกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ และตู้ที่เหลือบางส่วนพุ่งเข้ากระแทกกัน
อุบัติเหตุ เกิดขึ้นด้านนอกสถานีรถไฟแห่งหนึ่งใกล้เมืองอาล ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงบรัสเซลราว 15 กิโลเมตร โดยผู้ได้รับบาดเจ็บที่ร่างกายเต็มไปด้วยคราบเลือดถูกนำขึ้นเปลไปยังรถฉุกเฉิน ขณะที่แพทย์จำเป็นต้องปฏิบัติการตัดแขนตัดขาผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วน ณ ที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเพื่อสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ที่ผู้รอดชีวิตบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนต่อผู้โดยสาร ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเฟลมมิช บราบังท์ ระบุว่ารถไฟขบวนหนึ่งไม่ยอมจอด ณ สัญญาณไฟแดง