พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการดำเนินการของภาครัฐบาลในขณะนี้ว่า กำลังใช้สื่อและช่องทางต่างๆ ในการโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งภาพต่างๆ ที่รัฐบาลฉายผ่านสื่อนั้น ทำให้ใครต่อใครมองคนเสื้อแดงว่าเป็นกลุ่มที่ตั้งเป้าในการใช้กำลัง ใช้ความรุนแรงต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเท่าที่ตนดูภาพการชุมนุมดาวกระจายที่ผ่านมา ยังไม่เห็นความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า หากมีการยึดไปจริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็น่าจะเดือดร้อน และภาพที่ออกมาจะเหมือนเป็นการถูกรังแกจากรัฐบาล ซึ่งคนทำมาหากินแล้วต้องมาถูกยึดไปแบบนี้ ต่างชาติก็รับรู้ข่าวสารอยู่ตลอด จึงอาจจะทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อรัฐบาลไทยได้ ขณะที่ยืนยันด้วยว่า การออกมาเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการได้รับเงินสนับสนุนตามที่เป็นข่าว เนื่องจากเท่าที่ตนรู้จักน้องคนนี้ เป็นคนขี้เหนียว ใช้จ่ายเงินเป็น จึงไม่ใช่นิสัยที่จะเอาเงินมาแจกจ่ายใครต่อใครได้ขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองอีกด้วยว่า น่าจะใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแปลงแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้มข้นเข้ามาทุกที และเหมือนต่างฝ่ายต่างเดินมาถึงปลายทาง ซึ่งไม่มีทางออกแล้วนอกจากจะเผชิญหน้ากัน ซึ่งทางแก้ไขนั้น หากรัฐบาลยุบสภาเรื่องทุกอย่างคงคลี่คลายไป เนื่องจากบ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอีกครั้ง เชื่อว่าคนเสื้อแดงจะลดการเคลื่อนไหวลง เนื่องจากทุกอย่างกลับสู่การดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง
นอกจากนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า หากมีการยึดไปจริงๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็น่าจะเดือดร้อน และภาพที่ออกมาจะเหมือนเป็นการถูกรังแกจากรัฐบาล ซึ่งคนทำมาหากินแล้วต้องมาถูกยึดไปแบบนี้ ต่างชาติก็รับรู้ข่าวสารอยู่ตลอด จึงอาจจะทำให้เกิดภาพพจน์ที่ไม่ดีต่อรัฐบาลไทยได้ ขณะที่ยืนยันด้วยว่า การออกมาเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการได้รับเงินสนับสนุนตามที่เป็นข่าว เนื่องจากเท่าที่ตนรู้จักน้องคนนี้ เป็นคนขี้เหนียว ใช้จ่ายเงินเป็น จึงไม่ใช่นิสัยที่จะเอาเงินมาแจกจ่ายใครต่อใครได้ขนาดนั้น
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองอีกด้วยว่า น่าจะใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแปลงแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้มข้นเข้ามาทุกที และเหมือนต่างฝ่ายต่างเดินมาถึงปลายทาง ซึ่งไม่มีทางออกแล้วนอกจากจะเผชิญหน้ากัน ซึ่งทางแก้ไขนั้น หากรัฐบาลยุบสภาเรื่องทุกอย่างคงคลี่คลายไป เนื่องจากบ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอีกครั้ง เชื่อว่าคนเสื้อแดงจะลดการเคลื่อนไหวลง เนื่องจากทุกอย่างกลับสู่การดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง