พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวภายหลังยื่นหนังสือขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ว่า ความสำเร็จของการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ที่สภา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานไปยังพรรคเพื่อไทย และสมาชิกวุฒิสภา โดยเห็นว่ายังมีเวลาในการที่จะประสานงานกันอยู่ แต่ทั้งนี้ ส.ส.ทุกพรรคคงอยากให้การเลือกตั้งเป็นแบบเขตเล็ก ซึ่งหากมีการปล่อยให้ฟรีโหวต ก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย และ ส.ว.จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าการจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติพรรคที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยังไม่ถึงเวลาในการต่อสายพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ แต่ละพรรคการเมืองก็ต้องไปหาเสียงสนับสนุน เพื่อให้การพิจารณาในวาระแรกมีเสียงเพียงพอ
นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ว่า จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนชัดเจนว่า การปฏิวัติไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้ หากสถานการณ์ส่อว่าจะเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลสามารถใช้อำนาจทางกฎหมายในการให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ โดยต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อน และเห็นว่าการดูแลอารักขาบุคคลสำคัญเป็นเรื่องที่เหมาะสม และต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความประมาท
ขณะที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การพิจาณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภา แต่ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภานั้น สามารถเลื่อนวาระการพิจารณาให้เร็วขึ้นได้ ส่วนเสียงสนับสนุนนั้นต้องรอให้มีการอภิปรายก่อน ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจของสมาชิกในภายหลังได้ แต่หากการแก้ไขครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็สามารถยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ใหม่ในสมัยหน้า
นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ว่า จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนชัดเจนว่า การปฏิวัติไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้ หากสถานการณ์ส่อว่าจะเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลสามารถใช้อำนาจทางกฎหมายในการให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ โดยต้องรอประเมินสถานการณ์ก่อน และเห็นว่าการดูแลอารักขาบุคคลสำคัญเป็นเรื่องที่เหมาะสม และต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความประมาท
ขณะที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การพิจาณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภา แต่ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภานั้น สามารถเลื่อนวาระการพิจารณาให้เร็วขึ้นได้ ส่วนเสียงสนับสนุนนั้นต้องรอให้มีการอภิปรายก่อน ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจของสมาชิกในภายหลังได้ แต่หากการแก้ไขครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็สามารถยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ใหม่ในสมัยหน้า
