นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการเปิดศูนย์ปฏิบัติการสายด่วนอาฟตา 1385 มาแล้ว 20 วัน มีผู้ประกอบการสนใจสอบถามข้อสงสัย และติดต่อมาด้วยตนเอง มากกว่า 700 ราย โดยกลุ่มสินค้าเกษตร ภายใต้การเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟตา มีผู้ประกอบการสนใจสอบถามเป็นอันดับ 1 ที่ร้อยละ 13.8 รองลงมาคือ สินค้าข้าว ร้อยละ 9.3 ปาล์ม น้ำมันปาล์ม ร้อยละ 5.1 และกาแฟ ร้อยละ 4.6 ส่วนผู้ที่สอบถามเข้ามาแยกเป็นกลุ่มผู้นำเข้า-ส่งออก เกือบร้อยละ 80 ผู้ผลิต ร้อยละ 12.7 และอื่นๆ อาทิ นักวิชาการ นิสิตนักศึกษา ร้อยละ 18 ขณะที่ประเด็นที่สอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษี กระบวนการนำเข้า-ส่งออก การออกหนังสือเอกสาร และข้อมูลการตลาด
ทั้งนี้ จากการเปิดอาฟตามาเกือบ 1 เดือน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการส่งออกสินค้าภายใต้กรอบอาฟตาแล้ว เกือบ 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อย่าง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากการเปิดอาฟตามาเกือบ 1 เดือน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการส่งออกสินค้าภายใต้กรอบอาฟตาแล้ว เกือบ 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อย่าง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา