นายปรีชา การสุทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคและความปลอดภัยนิวเคลียร์ สำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทุกด้าน โดยตามแผนจะต้องมีการสรุป และเสนอรัฐบาลตัดสินใจในต้นปี 2554 ว่า จะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามแผนหรือไม่ โดยประเทศไทยวางแผนว่า จะสร้างโรงไฟฟ้าโรงแรกกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2563 และโรงที่ 2 อีก 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2564 ซึ่งช่วงนี้มีตัวแทนจากทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไออีเออี) ได้เข้ามาสอบถามไทยถึงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่งไทยได้เดินหน้าโครงการทุกด้านควบคู่กัน ทั้งเรื่องการจัดหาพื้นที่ เทคโนโลยี การสร้างความปลอดภัย มาตรฐานการก่อสร้าง และการทำความเข้าใจ
โดยล่าสุด คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้หารือร่วมกันที่จะแบ่งงานชัดเจนในการเข้ามาดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะดูแลกิจการไฟฟ้า ส่วนสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติจะดูแลมาตรฐานและความปลอดภัย โดยจะต้องแก้ไขกฎหมายพลังงานปรมาณูปี 2504 ซึ่งจะต้องกำหนดเชื้อเพลิงใช้แล้วสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และการชดใช้ค่าเสียหายหากเกิดอุบัติเหตุ โดยเรื่องนี้คงต้องจัดตั้งกองทุนขึ้นดูแล และแม้ว่าต้นทุนของกองทุนจะสูง แต่เมื่อรวมกับต้นทุนค่าก่อสร้างและต้นทุนเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับเชื่อเพลิงอื่นๆ ยังถือว่าต่ำและไม่ปล่อยมลพิษ
ทั้งนี้ ต้นทุนค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขยับขึ้นจาก 2.08 บาท เป็น 2.40 บาทต่อหน่วย
โดยล่าสุด คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้หารือร่วมกันที่จะแบ่งงานชัดเจนในการเข้ามาดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะดูแลกิจการไฟฟ้า ส่วนสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติจะดูแลมาตรฐานและความปลอดภัย โดยจะต้องแก้ไขกฎหมายพลังงานปรมาณูปี 2504 ซึ่งจะต้องกำหนดเชื้อเพลิงใช้แล้วสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และการชดใช้ค่าเสียหายหากเกิดอุบัติเหตุ โดยเรื่องนี้คงต้องจัดตั้งกองทุนขึ้นดูแล และแม้ว่าต้นทุนของกองทุนจะสูง แต่เมื่อรวมกับต้นทุนค่าก่อสร้างและต้นทุนเชื้อเพลิง เมื่อเทียบกับเชื่อเพลิงอื่นๆ ยังถือว่าต่ำและไม่ปล่อยมลพิษ
ทั้งนี้ ต้นทุนค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขยับขึ้นจาก 2.08 บาท เป็น 2.40 บาทต่อหน่วย