พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เปิดเผย ถึงกรณีชที่มีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กองบัญชาการกองทัพบก ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ต้องการล้างแค้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกลอบสังหารก็เป็นได้ หรืออาจเป็นฝีมือของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่อาจไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ โดยในวันที่เกิดเหตุ คือวันที่ 14 มกราคม ตนเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง จึงไม่ควรนำตนเข้ามาเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.ขัตติยะ ยังกล่าวอีกว่า การที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงถล่มนั้นถือเป็นเรื่องน่าอับอายที่สุด เพราะตั้งแต่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 รวมเวลา 122 ปี ยังไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น การโดนยิงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และขณะนี้ กองทัพบกไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไปแล้ว เพราะมีประชาชนที่ไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ จนถึงเอาพวงหรีด ไปวางหน้ากองทัพบก
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ ยังกล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่กองทัพบกอีกหรือไม่ แต่เชื่อว่ามีแน่นอน เพราะเชื่อว่ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.อนุพงษ์ แม้จะถูกพักราชการโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ยังไม่ลืมความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตนขอเตือนให้ พล.อ.อนุพงษ์ นำภรรยา และลูกย้ายออกจากบ้านพัก ใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาพักอยู่ที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เสียก่อน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และควรนำตาข่ายมาห่อที่ทำการกองทัพบกไว้ป้องกันระเบิดเอ็ม 79 เพราะคนร้ายอาจยิงถล่มจนกว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะลาออก
พล.ต.ขัตติยะ ยังกล่าวอีกว่า การที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงถล่มนั้นถือเป็นเรื่องน่าอับอายที่สุด เพราะตั้งแต่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 รวมเวลา 122 ปี ยังไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น การโดนยิงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และขณะนี้ กองทัพบกไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไปแล้ว เพราะมีประชาชนที่ไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ จนถึงเอาพวงหรีด ไปวางหน้ากองทัพบก
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ ยังกล่าวอีกว่า ไม่รู้ว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่กองทัพบกอีกหรือไม่ แต่เชื่อว่ามีแน่นอน เพราะเชื่อว่ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.อนุพงษ์ แม้จะถูกพักราชการโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ยังไม่ลืมความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ตนขอเตือนให้ พล.อ.อนุพงษ์ นำภรรยา และลูกย้ายออกจากบ้านพัก ใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาพักอยู่ที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เสียก่อน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และควรนำตาข่ายมาห่อที่ทำการกองทัพบกไว้ป้องกันระเบิดเอ็ม 79 เพราะคนร้ายอาจยิงถล่มจนกว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะลาออก
