นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ใช้มาตรฐานเดียวในการตัดสินคดีบริจาคเงิน 258 ล้านบาทให้พรรคประชาธิปัตย์ เพราะจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคมได้ว่า นายวัชระไม่ควรนำเรื่องนี้มาขยายผลทางการเมืองผสมโรงไปกับแนวร่วมของคนเสื้อแดง ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน การพูดพาดพิงออกไปควรคำนึงถึงระบบขององค์กรและความเหมาะสม พรรคประชาธิปัตย์พร้อมยอมรับคำตัดสิน
นายเทพไท กล่าวว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กว่า 5 ล้านคน จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวตามที่นายวัชระได้ประเมินไว้ เพราะทุกคนมีจุดยืนเหมือนแกนนำของพรรคที่ยึดมั่นในระบบและตัวบทกฎหมายของชาติบ้านเมือง และพร้อมที่จะสนับสนุนให้ กกต.ทำหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้องและผลประโยชน์โดยรวมของชาติบ้านเมือง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์โชคร้ายถูก กกต.ชี้มูลมีมติให้ยุบพรรค พรรคก็พร้อมที่จะไปต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่เคลื่อนไหวตีรวนหรือดิ้นรนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้หลุดพ้นจากคดียุบพรรค เหมือนที่พรรคการเมืองบางพรรคกล่าวหา และไม่เคยมีสมาชิกของพรรคออกมากดดันการทำหน้าที่ของ กกต.แต่อย่างใด ทุกอย่างปล่อยให้เป็นอิสระในการพิจารณาตามข้อเท็จจริง
นายเทพไท กล่าวว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กว่า 5 ล้านคน จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวตามที่นายวัชระได้ประเมินไว้ เพราะทุกคนมีจุดยืนเหมือนแกนนำของพรรคที่ยึดมั่นในระบบและตัวบทกฎหมายของชาติบ้านเมือง และพร้อมที่จะสนับสนุนให้ กกต.ทำหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้องและผลประโยชน์โดยรวมของชาติบ้านเมือง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์โชคร้ายถูก กกต.ชี้มูลมีมติให้ยุบพรรค พรรคก็พร้อมที่จะไปต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่เคลื่อนไหวตีรวนหรือดิ้นรนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้หลุดพ้นจากคดียุบพรรค เหมือนที่พรรคการเมืองบางพรรคกล่าวหา และไม่เคยมีสมาชิกของพรรคออกมากดดันการทำหน้าที่ของ กกต.แต่อย่างใด ทุกอย่างปล่อยให้เป็นอิสระในการพิจารณาตามข้อเท็จจริง
