นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผย ถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี ในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรี ทบทวนความทรงจำในอดีต สมัยที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลปรับคณะรัฐมนตรีส่วนที่มีปัญหา โดยไม่ต้องสนใจเรื่องของผลประโยชน์ในพรรคตัวเอง แต่วันนี้ การปรับคณะรัฐมนตรี ทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นเพียงการเล่นเก้าอี้ดนตรี ชนิดสมบัติผลัดกันชม หรือการแต่งหน้าเค้กใหม่ ทั้งที่ หน้าเค้กขึ้นราจนเหม็นเน่าไปหมดแล้ว แลดูแค่สวยอย่างเดียวแต่กินไม่ได้ ดังนั้น หากกฎเหล็ก 9 ข้อ ไม่กลายเป็นกฎเด็ก 9 ข้อ หากมีรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็ไม่ควรมีตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐมนตรี
นายจิรายุ ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคกำลังเตรียมยื่นสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น โดยไม่สนใจเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่า กรณีดังกล่าว ถือเป็นแก้วร้าวที่รอวันแตก และเชื่อได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์คงไม่อยากแก้ 2 ประเด็น เพราะการเลือกตั้ง โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ผ่านมา เกิดปรากฎการณ์ครั้งที่ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยได้คะแนนเสียง ส.ส.เป็นจำนวนมากที่สุดมาก่อน ก็ได้จากการเลือกตั้งเขตใหญ่ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร
นายจิรายุ ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคกำลังเตรียมยื่นสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น โดยไม่สนใจเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น พรรคเพื่อไทยเห็นว่า กรณีดังกล่าว ถือเป็นแก้วร้าวที่รอวันแตก และเชื่อได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์คงไม่อยากแก้ 2 ประเด็น เพราะการเลือกตั้ง โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ผ่านมา เกิดปรากฎการณ์ครั้งที่ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยได้คะแนนเสียง ส.ส.เป็นจำนวนมากที่สุดมาก่อน ก็ได้จากการเลือกตั้งเขตใหญ่ อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น พรรคเพื่อไทย เห็นว่า ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร
