นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยถึงกรณีมีการข่าวระบุพื้นที่เฝ้าระวังความไม่ปลอดภัยในช่วงปีใหม่ มีทั้งกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ว่า ในส่วนของถนนข้าวสารทางสมาคมฯ ประสานกับสถานีตำรวจชนะสงครามอยู่เป็นปกติ และประชุมร่วมกันทุกเดือน ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าว แต่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว อีกทั้งผู้ประกอบการในถนนข้าวสารจะร่วมกันคอยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นถังขยะ หรือเห็นกระเป๋าผิดปกติ จะช่วยกันดูแลเพราะถนนข้าวสาร มีความยาวเพียง 500 เมตร
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางสมาคมฯ ไม่ได้จัดงานใหญ่ แต่ทางร้านต่างๆ จะจัดงานกันเองมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำลายความสุขของนักท่องเที่ยวในช่วงบรรยากาศเช่นนี้ และวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) จะหารือกับสมาชิกเพื่อกำหนดมาตรการเพิ่มเติม
นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของถนนข้าวสารในเดือนธันวาคมนี้ มีนักท่องเที่ยวคึกคักมากกว่าทุกเดือน แต่เมื่อเทียบฤดูกาลท่องเที่ยว 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้กับปีที่ผ่านมาแล้ว ปีนี้เงียบเหงามากกว่า ผลประกอบการแต่ละแห่งลดลงเฉลี่ยร้อยละ 30 จากปีที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 20 เพราะสถานการณ์บ้านเมือง ภาพลักษณ์ที่ออกไปกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาและส่วนหนึ่งจากเศรษฐกิจโลก ทำให้นักท่องเที่ยวลดวันพัก เช่น นานเป็นเดือนเหลือเพียง 7-15 วัน การกินอาหาร เปลี่ยนเป็นแผงลอย ร้านสะดวกซื้อแทนผับ ร้านอาหาร และการซื้อของที่ระลึก เครื่องเงินซึ่งถือเป็นของฟุ่มเฟือยลดการใช้จ่ายส่วนนี้ไป พร้อมวิเคราะห์การท่องเที่ยวปีหน้า สถานการณ์จะยังเงียบแบบนี้ ขึ้นอยู่กับการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางสมาคมฯ ไม่ได้จัดงานใหญ่ แต่ทางร้านต่างๆ จะจัดงานกันเองมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำลายความสุขของนักท่องเที่ยวในช่วงบรรยากาศเช่นนี้ และวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) จะหารือกับสมาชิกเพื่อกำหนดมาตรการเพิ่มเติม
นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของถนนข้าวสารในเดือนธันวาคมนี้ มีนักท่องเที่ยวคึกคักมากกว่าทุกเดือน แต่เมื่อเทียบฤดูกาลท่องเที่ยว 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้กับปีที่ผ่านมาแล้ว ปีนี้เงียบเหงามากกว่า ผลประกอบการแต่ละแห่งลดลงเฉลี่ยร้อยละ 30 จากปีที่ผ่านมาลดลงร้อยละ 20 เพราะสถานการณ์บ้านเมือง ภาพลักษณ์ที่ออกไปกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาและส่วนหนึ่งจากเศรษฐกิจโลก ทำให้นักท่องเที่ยวลดวันพัก เช่น นานเป็นเดือนเหลือเพียง 7-15 วัน การกินอาหาร เปลี่ยนเป็นแผงลอย ร้านสะดวกซื้อแทนผับ ร้านอาหาร และการซื้อของที่ระลึก เครื่องเงินซึ่งถือเป็นของฟุ่มเฟือยลดการใช้จ่ายส่วนนี้ไป พร้อมวิเคราะห์การท่องเที่ยวปีหน้า สถานการณ์จะยังเงียบแบบนี้ ขึ้นอยู่กับการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ
