นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำในปี 2553 จะมีความผันผวนมากกว่าปีนี้ เนื่องจากกองทุนเก็งกำไรจะเข้ามาลงทุนในทองคำมากขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว โดยประเมินว่าราคาทองคำในตลาดโลกไตรมาส 1 ของปี 2553 จะแกว่งตัวระหว่าง 1,100 - 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลกเป็นหลัก แต่มีปัจจัยค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ราคาทองในประเทศไม่สูงมากเท่ากับตลาดโลก ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าช่วยให้ราคาทองถูกลง
นายจิตติคาดว่า บรรยากาศร้านค้าทองคำน่าจะคึกคัก เพราะหากราคาทองคำผันผวนจะมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรเป็นระยะ ซึ่งจะแตกต่างจากปีนี้ที่ราคาทองปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาซื้อทองคำ ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรในปีหน้าจะมีราคาดี ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมาซื้อทองคำมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายทองคำในช่วงส่งท้ายปีไม่คึกคัก เนื่องจากมีวันหยุดหลายวันทั้งวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยร้านค้าทองคำหยุดช่วงปีใหม่ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2552-1 มกราคม 2553
สำหรับราคาขายทองคำในวันนี้ (21 ธ.ค.) ไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 17,500 บาท ขายออก 17,600 บาท และทองรูปพรรณ รับซื้อ 17,252.08 บาท และขายออก 18,000 บาท
ส่วนราคาทองคำในประเทศ ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลกเป็นหลัก แต่มีปัจจัยค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ราคาทองในประเทศไม่สูงมากเท่ากับตลาดโลก ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าช่วยให้ราคาทองถูกลง
นายจิตติคาดว่า บรรยากาศร้านค้าทองคำน่าจะคึกคัก เพราะหากราคาทองคำผันผวนจะมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรเป็นระยะ ซึ่งจะแตกต่างจากปีนี้ที่ราคาทองปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาซื้อทองคำ ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรในปีหน้าจะมีราคาดี ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมาซื้อทองคำมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับบรรยากาศการซื้อขายทองคำในช่วงส่งท้ายปีไม่คึกคัก เนื่องจากมีวันหยุดหลายวันทั้งวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยร้านค้าทองคำหยุดช่วงปีใหม่ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2552-1 มกราคม 2553
สำหรับราคาขายทองคำในวันนี้ (21 ธ.ค.) ไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 17,500 บาท ขายออก 17,600 บาท และทองรูปพรรณ รับซื้อ 17,252.08 บาท และขายออก 18,000 บาท