ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เบน เบอร์นันกี ออกมาพูดเมื่อวันจันทร์(7)ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกันยังคงอยู่ในสภาพที่เปราะบาง และอัตราการว่างงานก็น่าจะยังสูงไปอีกระยะหนึ่ง ปรากฏว่าคำกล่าวของเขาส่งผลทำให้ตลาดการเงินหยุดการกะเก็งที่ว่า กำลังจะมีการขยับขึ้นดอกเบี้ยกันแล้ว
นับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯประกาศตัวเลขการว่างงานประจำเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์(4) ซึ่งปรากฏว่าจำนวนคนสูญเสียตำแหน่งงานได้ลดลงเหลือ 11,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานก็ถอยลงมาอยู่ในระดับ 10.0% ซึ่งล้วนแต่ดีกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ ทำให้พวกนักลงทุนคาดเก็งกันว่าเฟดอาจจะเร่งขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย “เฟด ฟันดส์ เรต” ในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่เคยคิดกันเอาไว้เดิม
ทว่าเบอร์นันกีกล่าวยืนยันในระหว่างไปแสดงปาฐกถาต่อสโมสรเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) ในวันจันทร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงยึดมั่นกับคำสัญญาที่ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ให้อยู่ในระดับต่ำมากๆ เช่นนี้ ไปอีกระยะหนึ่ง
“เรายังจะต้องเดินกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวจะอยู่ในสภาพประคับประคองตัวเองได้แล้ว” เขากล่าว “นอกจากนั้นสิ่งที่เป็นประเด็นปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ การฟื้นตัวจะสามารถสร้างตำแหน่งงานเป็นจำนวนมากถึงระดับที่จำป็นแก่การทำให้อัตราการว่างงานลดต่ำลงมาอย่างชัดเจนได้หรือไม่”
นับตั้งแต่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯประกาศตัวเลขการว่างงานประจำเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์(4) ซึ่งปรากฏว่าจำนวนคนสูญเสียตำแหน่งงานได้ลดลงเหลือ 11,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานก็ถอยลงมาอยู่ในระดับ 10.0% ซึ่งล้วนแต่ดีกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ ทำให้พวกนักลงทุนคาดเก็งกันว่าเฟดอาจจะเร่งขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย “เฟด ฟันดส์ เรต” ในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่เคยคิดกันเอาไว้เดิม
ทว่าเบอร์นันกีกล่าวยืนยันในระหว่างไปแสดงปาฐกถาต่อสโมสรเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) ในวันจันทร์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงยึดมั่นกับคำสัญญาที่ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ให้อยู่ในระดับต่ำมากๆ เช่นนี้ ไปอีกระยะหนึ่ง
“เรายังจะต้องเดินกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่เราจะสามารถมั่นใจได้ว่าการฟื้นตัวจะอยู่ในสภาพประคับประคองตัวเองได้แล้ว” เขากล่าว “นอกจากนั้นสิ่งที่เป็นประเด็นปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ การฟื้นตัวจะสามารถสร้างตำแหน่งงานเป็นจำนวนมากถึงระดับที่จำป็นแก่การทำให้อัตราการว่างงานลดต่ำลงมาอย่างชัดเจนได้หรือไม่”