นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 เดินทางรับฟังปัญหาจากตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกของคณะกรรมการทั้งชุด หลังเริ่มทำงานมาได้ 5 สัปดาห์
นายอานันท์ชี้แจงว่า การทำงานของคณะกรรมการนั้น ยึดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรร 2 เป็นหลัก ในเรื่องของการจัดหา ให้มีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสุขภาพ หรือเอชไอเอ การรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่คณะกรรมการให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การจัดตั้งองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และเหตุที่คณะกรรมการมีผู้บริหารจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย และ ปตท.อยู่ด้วยนั้น เพราะโครงการส่วนใหญ่ที่ถูกระงับ จาก 76 โครงการ เป็นของ 2 องค์กรนี้
ขณะเดียวกัน ตัวแทนชาวบ้านจากเทศบาลนครระยอง และ 4 ตำบล ซึ่งอยู่รอบเขตอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เปิดเผยว่าถึงปัญหา โดยระบุว่า ชุมชนประสบปัญหามานาน 10 ปี ทั้งในเรื่องของสารเคมี ที่มักส่งกลิ่นมาตอนกลางดึก และปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวสวนผลไม้ จากการถูกแย่งชิงโดยโรงงานอุตสาหกรรม
ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย กล่าวด้วยว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ น่าจะมีทางออกสำหรับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีแนวทางมาจากคณะกรรมการ 4 ฝ่าย โดยมีสาระของ 3 มาตรการสำคัญ คือ เรื่องเอชไอเอ การรับฟังความคิดเห็น และการจัดตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งจะปลดล็อกการชะงักงัน ทำให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการลงพื้นที่ของคระกรรมการ 4 ฝ่ายในวันนี้ นอกจากรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว เป็นการสำรวจและหาข้อมูลในการจัดตั้งองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 ที่ระบุว่า ให้ตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากภาคเอกชน ด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่ชำนาญด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสุขภาพ
คณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนในช่วงค่ำวันนี้ คณะกรรมการ 4 ฝ่าย จะเดินทางไปพบกับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนี้ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรม
นายอานันท์ชี้แจงว่า การทำงานของคณะกรรมการนั้น ยึดตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรร 2 เป็นหลัก ในเรื่องของการจัดหา ให้มีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสุขภาพ หรือเอชไอเอ การรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่คณะกรรมการให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การจัดตั้งองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และเหตุที่คณะกรรมการมีผู้บริหารจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย และ ปตท.อยู่ด้วยนั้น เพราะโครงการส่วนใหญ่ที่ถูกระงับ จาก 76 โครงการ เป็นของ 2 องค์กรนี้
ขณะเดียวกัน ตัวแทนชาวบ้านจากเทศบาลนครระยอง และ 4 ตำบล ซึ่งอยู่รอบเขตอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เปิดเผยว่าถึงปัญหา โดยระบุว่า ชุมชนประสบปัญหามานาน 10 ปี ทั้งในเรื่องของสารเคมี ที่มักส่งกลิ่นมาตอนกลางดึก และปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวสวนผลไม้ จากการถูกแย่งชิงโดยโรงงานอุตสาหกรรม
ประธานคณะกรรมการ 4 ฝ่าย กล่าวด้วยว่า ภายใน 2 สัปดาห์นี้ น่าจะมีทางออกสำหรับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีแนวทางมาจากคณะกรรมการ 4 ฝ่าย โดยมีสาระของ 3 มาตรการสำคัญ คือ เรื่องเอชไอเอ การรับฟังความคิดเห็น และการจัดตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งจะปลดล็อกการชะงักงัน ทำให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการลงพื้นที่ของคระกรรมการ 4 ฝ่ายในวันนี้ นอกจากรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว เป็นการสำรวจและหาข้อมูลในการจัดตั้งองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 ที่ระบุว่า ให้ตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจากภาคเอกชน ด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่ชำนาญด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติ ด้านสุขภาพ
คณะกรรมการ 4 ฝ่ายที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย ตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนในช่วงค่ำวันนี้ คณะกรรมการ 4 ฝ่าย จะเดินทางไปพบกับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนี้ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาคอุตสาหกรรม
