นักข่าวในฟิลิปปินส์รวมทั้งกลุ่มนักเคลื่อนไหวพร้อมใจกันสวมเสื้อสีดำ และแห่โลงศพประท้วงกันในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการสังหารนักข่าว รวมทั้งนำตัวผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องในคดีทุกคนมาสอบปากคำเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ผู้ประท้วงได้เดินขบวนเข้าใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี โดยโฆษกประจำตัวนางกลอเรีย อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ออกมาพบผู้ประท้วง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะทำทุกทางเพื่อให้ผู้เสียชีวิตได้รับความยุติธรรม
เหตุสังหารหมู่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 57 คน เป็นคนในตระกูลมันกูดา-ดาตู 6 คน ผู้สนับสนุน 5 คน ผู้ที่ถูกลูกหลง 5 คน และล่าสุดนักข่าวที่ตามขบวนอีก 34 คน
ก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวระหว่างประเทศที่มีฐานอยู่ในเบลเยียม เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยระบุว่า ในช่วง 8 ปีที่เธออยู่ในตำแหน่งนั้น มีนักข่าวเสียชีวิตรวม 75 คน แต่มีผู้ที่ถูกลงโทษเพียง 4 คนเท่านั้น
ประเด็นสังหารหมู่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหาเสียงระหว่างการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในวันนี้ โดยนายโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการนิรโทษกรรมจากข้อหาคอร์รัปชั่น ประกาศหลังสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมเชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน
เหตุสังหารหมู่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 57 คน เป็นคนในตระกูลมันกูดา-ดาตู 6 คน ผู้สนับสนุน 5 คน ผู้ที่ถูกลูกหลง 5 คน และล่าสุดนักข่าวที่ตามขบวนอีก 34 คน
ก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวระหว่างประเทศที่มีฐานอยู่ในเบลเยียม เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยระบุว่า ในช่วง 8 ปีที่เธออยู่ในตำแหน่งนั้น มีนักข่าวเสียชีวิตรวม 75 คน แต่มีผู้ที่ถูกลงโทษเพียง 4 คนเท่านั้น
ประเด็นสังหารหมู่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหาเสียงระหว่างการสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในวันนี้ โดยนายโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการนิรโทษกรรมจากข้อหาคอร์รัปชั่น ประกาศหลังสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมเชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน