นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันต่อที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 15 ว่า ได้เห็นชอบให้ผลักดันข้อตกลงที่มีผลบังคับทางกฎหมาย ในการแก้ปัญหาโลกร้อนโดยเร็วที่สุดไม่เกินปลายปีหน้า ส่วนประเทศพัฒนาแล้วควรมีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ในการประชุมครั้งนี้ด้วย
สำหรับการลดภาวะเรือนกระจกในส่วนของประเทศในกลุ่มของอาเซียนที่ประชุมเห็นว่า กลุ่มอาเซียนมีมาตรการที่จะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส หรือจำกัดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ในชั้นบรรยากาศไม่เกิน 450 พีพีเอ็มอยู่แล้ว แต่มาตรการที่ดำเนินการของแต่ละประเทศ จะเป็นไปตามความเหมาะสมและสมัครใจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องกับกลุ่มจี 77 และจีน ว่า การสนับสนุนการเงินตั้งกองทุนรองรับการปรับตัวต่อผลกระทบจากมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศกำลังพัฒนา ควรจะมีมูลค่า 0.5- 1 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของประเทศพัฒนาแล้ว และเงินสนับสนุนควรมาจากภาครัฐเป็นส่วนใหญ่
สำหรับการลดภาวะเรือนกระจกในส่วนของประเทศในกลุ่มของอาเซียนที่ประชุมเห็นว่า กลุ่มอาเซียนมีมาตรการที่จะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส หรือจำกัดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก ในชั้นบรรยากาศไม่เกิน 450 พีพีเอ็มอยู่แล้ว แต่มาตรการที่ดำเนินการของแต่ละประเทศ จะเป็นไปตามความเหมาะสมและสมัครใจ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นพ้องกับกลุ่มจี 77 และจีน ว่า การสนับสนุนการเงินตั้งกองทุนรองรับการปรับตัวต่อผลกระทบจากมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศกำลังพัฒนา ควรจะมีมูลค่า 0.5- 1 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของประเทศพัฒนาแล้ว และเงินสนับสนุนควรมาจากภาครัฐเป็นส่วนใหญ่