สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า พวกนักลงทุนต่างพากันล่าถอยออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อวันศุกร์(27) และพากันเทขายหุ้นกิจการธนาคารและบริษัทก่อสร้างในแถบเอเชีย ด้วยความหวาดผวาว่าการที่ดูไบประกาศหยุดพักการชำระหนี้ไป 6 เดือนในทางพฤตินัย จะกลายเป็นชนวนทำให้เกิดความปั่นป่วนผันผวนทางการเงินและวิกฤตสินเชื่อขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปต่างถูกหลอกหลอนด้วยความระแวงสงสัยว่า มีธนาคารหรือบริษัทแห่งใดบ้างที่เกี่ยวข้องปล่อยกู้หรือพัวพันทางธุรกิจกับพวกบริษัทดูไบ ซึ่งเป็นผู้จัดทำโครงการสร้างเกาะรุปร่างพิศดารขึ้นในย่านอ่าวเปอร์เซีย, วางผังจัดสร้างย่านเมืองใหม่ในนครต่างๆ ตั้งแต่ปากีสถานไปจนถึงแอฟริกา, ตลอดจนรังสรรค์ดูไบให้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคที่กำลังส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลก
ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหล่นฮวบ 4.84% ส่วนตลาดโซลก็ดำดิ่ง 4.69% นับเป็นการทรุดตัวหนักที่สุดในรอบปีนี้ของตลาดทั้งสอง โดยที่ฮ่องกงนั้นเนื่องจากนักลงทุนกังวลใจว่า เอชเอสบีซี และ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 2 แบงก์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นที่นี่ด้วย จะย่ำแย่จากการไปปล่อยกู้ให้ดูไบ ส่วนในโซล แม้นักลงทุนเชื่อว่าพวกแบงก์และบริษัทก่อสร้างของเกาหลีใต้ไปพัวพันกับดูไบไม่มากมายอะไรนัก แต่ก็หวั่นไหวอยู่ดีว่าภาคการเงินของแถบยุโรปจะมีปัญหาใหญ่
ขณะที่โตเกียวก็เซซวดลงไป 3.22% โดยที่ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กิจการธนาคารใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นติดลบ 2.20% และ สุมิโตโม มิตซุย แบงก์ยักษ์ใหญ่อีกรายหนึ่งร่วงลง 3.67% ทั้งนี้นักลงทุนนอกจากกังวลใจกับเรื่องผลกระทบที่จะแผ่ลามจากกรณีดูไบแล้ว ยังวิตกต่อการที่ค่าเงินเยนอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์
ตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปต่างถูกหลอกหลอนด้วยความระแวงสงสัยว่า มีธนาคารหรือบริษัทแห่งใดบ้างที่เกี่ยวข้องปล่อยกู้หรือพัวพันทางธุรกิจกับพวกบริษัทดูไบ ซึ่งเป็นผู้จัดทำโครงการสร้างเกาะรุปร่างพิศดารขึ้นในย่านอ่าวเปอร์เซีย, วางผังจัดสร้างย่านเมืองใหม่ในนครต่างๆ ตั้งแต่ปากีสถานไปจนถึงแอฟริกา, ตลอดจนรังสรรค์ดูไบให้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคที่กำลังส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลก
ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหล่นฮวบ 4.84% ส่วนตลาดโซลก็ดำดิ่ง 4.69% นับเป็นการทรุดตัวหนักที่สุดในรอบปีนี้ของตลาดทั้งสอง โดยที่ฮ่องกงนั้นเนื่องจากนักลงทุนกังวลใจว่า เอชเอสบีซี และ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 2 แบงก์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นที่นี่ด้วย จะย่ำแย่จากการไปปล่อยกู้ให้ดูไบ ส่วนในโซล แม้นักลงทุนเชื่อว่าพวกแบงก์และบริษัทก่อสร้างของเกาหลีใต้ไปพัวพันกับดูไบไม่มากมายอะไรนัก แต่ก็หวั่นไหวอยู่ดีว่าภาคการเงินของแถบยุโรปจะมีปัญหาใหญ่
ขณะที่โตเกียวก็เซซวดลงไป 3.22% โดยที่ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กิจการธนาคารใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นติดลบ 2.20% และ สุมิโตโม มิตซุย แบงก์ยักษ์ใหญ่อีกรายหนึ่งร่วงลง 3.67% ทั้งนี้นักลงทุนนอกจากกังวลใจกับเรื่องผลกระทบที่จะแผ่ลามจากกรณีดูไบแล้ว ยังวิตกต่อการที่ค่าเงินเยนอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์