นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า เตรียมนำร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ของสำนักงานผู้แทนการค้าไทย เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พิจารณาควบคู่กับร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกหรือค้าส่ง ของกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ หลังนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยยอมรับว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ มีความแตกต่างกัน โดยมีการเพิ่มรายละเอียดในมาตรา 20 และ 21 ซึ่งกำหนดขนาดพื้นที่ของสถานประกอบธุรกิจไว้เป็นกฎกระทรวง และการขออนุญาตประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ซึ่งจะต้องคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันของธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งรายใหญ่และรายย่อย ธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งสมัยใหม่ และธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งแบบดั้งเดิม
สำนักงานผู้แทนการค้าไทย ได้ศึกษาปัญหาในหลายประเทศ และนำปัญหาของประเทศไทยเป็นตัวตั้งในการยกร่าง เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม รวมถึงรวบรวมความห่วงใยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงสร้างของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ซึ่งหากรัฐบาลควบคุมนโยบายให้ชัดเจนแล้ว ข้าราชการจะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายการเมือง
สำนักงานผู้แทนการค้าไทย ได้ศึกษาปัญหาในหลายประเทศ และนำปัญหาของประเทศไทยเป็นตัวตั้งในการยกร่าง เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม รวมถึงรวบรวมความห่วงใยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงสร้างของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ซึ่งหากรัฐบาลควบคุมนโยบายให้ชัดเจนแล้ว ข้าราชการจะเป็นผู้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายการเมือง