นางศรีวรรณ เอี่ยมรุ่งโจน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า สถานการณ์การนำเข้าก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ในปีหน้าอาจสูงถึง 1.5 ล้านตัน หากโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของ ปตท. ไม่สามารถเปิดการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากเป็น 1 ใน 76 โครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ที่ต้องรอให้ศาลปกครองกลางมีคำตัดสิน
ทั้งนี้ ตัวเลขการนำเข้าก๊าซแอลพีจีที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซแอลพีจีทดแทนน้ำมัน โดยคาดว่าการนำเข้าก๊าซแอลพีจีในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 8 แสนตัน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 6-7 แสนตัน อย่างไรก็ตาม หากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของ ปตท. สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อาจทำให้ยอดการนำเข้าก๊าซแอลพีจีในปีหน้าอยู่ที่ 1 ล้านตัน
ทั้งนี้ ตัวเลขการนำเข้าก๊าซแอลพีจีที่สูงขึ้น เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซแอลพีจีทดแทนน้ำมัน โดยคาดว่าการนำเข้าก๊าซแอลพีจีในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 8 แสนตัน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 6-7 แสนตัน อย่างไรก็ตาม หากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 6 ของ ปตท. สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ อาจทำให้ยอดการนำเข้าก๊าซแอลพีจีในปีหน้าอยู่ที่ 1 ล้านตัน