มีผู้นำ 65 ประเทศทั่วโลกยืนยันจะเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ซึ่งจัดโดยสหประชาชาติ ในระหว่างวันที่ 7-18 ธันวาคม ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ทำให้เกิดความหวังกันขึ้นมาใหม่ว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆ จะแสดงความมุ่งมั่นผูกพันอย่างแข็งขัน เพื่อทำสนธิสัญญาฉบับใหม่ในเรื่องการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง
แม้ว่าการลงนามในสนธิสัญญาฉบับใหม่อย่างเป็นทางการ จะต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อยก็จนถึงปีหน้า แต่เมื่อราว 10 วันก่อนเดนมาร์กซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ได้ยกระดับเวทีการเจรจาคราวนี้ โดยเชื้อเชิญผู้นำรัฐและรัฐบาล 191 ประเทศเข้าร่วมในการประชุมสองวันสุดท้ายเพื่อระดมพลังทางการเมืองสนับสนุนการประชุมครั้งนี้
การประชุมโคเปนเฮเกนนี้ ตอนแรกทีเดียวจะเป็นเพียงเวทีประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่บัดนี้ได้ยกระดับขึ้นเป็นการประชุมสุดยอดแล้ว แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่
ทางการเดนมาร์กระบุว่าล่าสุดมีผู้นำ 65 ประเทศตอบรับการประชุมแล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่ามีประเทศใดบ้าง โดยอ้างว่าผู้นำเหล่านั้นจะเป็นผู้แถลงเองว่าจะเข้าร่วมประชุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้นำประเทศที่แถลงว่าจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้แล้ว มีอาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และบราซิล
แม้ว่าการลงนามในสนธิสัญญาฉบับใหม่อย่างเป็นทางการ จะต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อยก็จนถึงปีหน้า แต่เมื่อราว 10 วันก่อนเดนมาร์กซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ ได้ยกระดับเวทีการเจรจาคราวนี้ โดยเชื้อเชิญผู้นำรัฐและรัฐบาล 191 ประเทศเข้าร่วมในการประชุมสองวันสุดท้ายเพื่อระดมพลังทางการเมืองสนับสนุนการประชุมครั้งนี้
การประชุมโคเปนเฮเกนนี้ ตอนแรกทีเดียวจะเป็นเพียงเวทีประชุมระดับรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่บัดนี้ได้ยกระดับขึ้นเป็นการประชุมสุดยอดแล้ว แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่
ทางการเดนมาร์กระบุว่าล่าสุดมีผู้นำ 65 ประเทศตอบรับการประชุมแล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่ามีประเทศใดบ้าง โดยอ้างว่าผู้นำเหล่านั้นจะเป็นผู้แถลงเองว่าจะเข้าร่วมประชุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้นำประเทศที่แถลงว่าจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้แล้ว มีอาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และบราซิล