ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลุ่มสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (ส.ป.ท.) นำโดย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบอำนาจรัฐ และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาฯ ได้ยื่นหนังสือต่อประธาน กกต.เพื่อให้ตรวจสอบ ส.ส.เพื่อไทย ที่ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กัมพูชา จนทำให้องค์ประชุมสภาไม่ครบ อีกทั้งน่าจะผิดระเบียบข้อบังคับของสภา จึงขอให้พิจารณาว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดทำให้พ้นจากสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. และนำไปสู่การยุบพรรคได้หรือไม่ รวมถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาในการประชุมพรรค ถือเป็นการผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาครอบงำ และบงการพรรคเพื่อไทย เท่ากับเป็นผู้ที่มีอำนาจอย่างแท้จริงในพรรคนี้ และเป็นการกระทำที่ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า สาเหตุที่สภาล่ม ไม่ได้มาจาก ส.ส.เพื่อไทยไปกัมพูชา แต่มาจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าประชุมสภาไม่ครบนั้น นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การอ้างดังกล่าวเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว เป็นการยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อยากดูใจ กกต.ว่าคิดตรงกันหรือไม่
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า สาเหตุที่สภาล่ม ไม่ได้มาจาก ส.ส.เพื่อไทยไปกัมพูชา แต่มาจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเข้าประชุมสภาไม่ครบนั้น นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การอ้างดังกล่าวเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว เป็นการยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อยากดูใจ กกต.ว่าคิดตรงกันหรือไม่