นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสนับสนุนโครงการแก้หนี้ระบบของรัฐบาล ถึงแม้จะไม่มีผลโดยตรงต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และค่อนข้างเป็นนโยบายประชานิยม แต่โครงการดังกล่าวทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ โดยการที่รัฐบาลให้วงเงิน 200,000 บาทต่อราย นั้น ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะผลการสำรวจพบว่าประชาชนมีหนี้สินประมาณ 150,000 บาทต่อราย อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังช่วยลดภาระอัตราดอกเบี้ยให้กับประชาชนรวมได้ 1 เท่า ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีเม็ดเงินเหลือจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น และหากประชาชนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวถึง 1,000,000 คน ตามที่รัฐบาลนี้ตั้งเป้าไว้ ก็จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่า โอกาสก่อหนี้สูงในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลนั้นถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากสถาบันการเงินได้วางเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อไว้เป็นอย่างดี โดยมองว่าการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดการรายได้ หรือ NPL มีไม่เกินร้อยละ 10
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่า โอกาสก่อหนี้สูงในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลนั้นถือว่ามีน้อยมาก เนื่องจากสถาบันการเงินได้วางเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อไว้เป็นอย่างดี โดยมองว่าการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดการรายได้ หรือ NPL มีไม่เกินร้อยละ 10