พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้แทนจากภาคเอกชน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ "ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อให้ปวงชนชาวไทยและชาวต่างชาติร่วมถวายความจงรักภักดี และมีส่วนร่วมในการแสดงความปีติยินดีเฉลิมฉลองในพระบรมเดชานุภาพ เพื่อแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ภายใต้พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่า การจัดงานดังกล่าวจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะถือเป็นงานสำคัญที่คนไทยทุกคนจะร่วมกันเฉลิมพระเกียรติ จึงไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย
ด้าน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า กิจกรรมการประกวดพลุนานาชาติฯ จะเริ่มครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2552 ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2554 โดยประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประกวดในปี 2552 คือ ประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ส่วนประเทศที่แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมจัดแสดงมีมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา อิตาลี โดยจะแสดงในเดือนสิงหาคมและธันวาคม 2553 และอีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคมและธันวาคม 2554 ทั้งนี้ การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2554 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดให้มีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ การแสดงกิจกรรมบันเทิงต่างๆ การจำหน่ายสินค้าราคาถูก และจะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่า การจัดงานดังกล่าวจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะถือเป็นงานสำคัญที่คนไทยทุกคนจะร่วมกันเฉลิมพระเกียรติ จึงไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย
ด้าน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า กิจกรรมการประกวดพลุนานาชาติฯ จะเริ่มครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2552 ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนธันวาคม 2554 โดยประเทศที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประกวดในปี 2552 คือ ประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ส่วนประเทศที่แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมจัดแสดงมีมากกว่า 10 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา อิตาลี โดยจะแสดงในเดือนสิงหาคมและธันวาคม 2553 และอีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคมและธันวาคม 2554 ทั้งนี้ การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2554 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดให้มีนิทรรศการเทิดพระเกียรติ การแสดงกิจกรรมบันเทิงต่างๆ การจำหน่ายสินค้าราคาถูก และจะมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี
