ตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดบริเวณด้านหลังเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อคืนที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากหลักฐานชิ้นส่วนระเบิดพบว่าเป็นระเบิดชนิด M79 โดยเจ้าหน้าที่ตรวจวัดทำมุมตกกระทบของหัวกระสุน พบว่ามีมุมตกกระทบที่คาดว่าอาจจะอยู่ที่ประมาณ 45-50 องศา ที่ยิงจากระยะ 350-400 เมตร ตำรวจจึงวัดจากระยะหัวกระสุนตก ขยายไปตามแนววิถี พบว่าจุดที่คาดว่าจะใช้ยิงนั้น อยู่บริเวณหลังกระทรวงกลาโหม และด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง หรือถนนคลองหลอด
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ระยะยิงและการสาดของสะเก็ดระเบิด ทำให้ทราบทิศทางการตั้งยิง สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นการยิงแบบไม่เห็นเป้าหมาย ซึ่งระยะยิงในลักษณะนี้หวังผลถึงชีวิตได้
หลังตรวจที่เกิดเหตุ ตำรวจจะนำข้อมูลไปประมวลพยานหลักฐานอีกครั้ง พร้อมกับขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่ใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจควบคุมไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้ปล่อยตัวไปแล้วหลังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง
ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 คน ขณะนี้เหลือผู้ป่วย 3 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง ผู้ที่อาการหนักสุดเป็นชายอายุ 71 ปี มีบาดแผลบริเวณหน้าท้อง และยังอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. เพื่อรอดูอาการ ส่วนอีก 9 คน อาการไม่รุนแรง แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ระยะยิงและการสาดของสะเก็ดระเบิด ทำให้ทราบทิศทางการตั้งยิง สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นการยิงแบบไม่เห็นเป้าหมาย ซึ่งระยะยิงในลักษณะนี้หวังผลถึงชีวิตได้
หลังตรวจที่เกิดเหตุ ตำรวจจะนำข้อมูลไปประมวลพยานหลักฐานอีกครั้ง พร้อมกับขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่ใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจควบคุมไว้เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจได้ปล่อยตัวไปแล้วหลังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง
ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 คน ขณะนี้เหลือผู้ป่วย 3 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง ผู้ที่อาการหนักสุดเป็นชายอายุ 71 ปี มีบาดแผลบริเวณหน้าท้อง และยังอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. เพื่อรอดูอาการ ส่วนอีก 9 คน อาการไม่รุนแรง แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
