นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมประชุมอาเซียน ที่ประเทศสิงคโปร์ว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดีประเทศเปรูเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเป็นสักขีพยานในการลางนามขยายข้อตกลงทางด้านการค้า
ส่วนสถานการณ์ระหว่าง ไทย-กัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์โดยตลอด และได้กำชับสถานทูตไทยในกัมพูชาไว้ 2 เรื่องคือ 1.ให้สถานทูตช่วยเหลือบุคคลที่กัมพูชาอ้างว่าจับกุมตัวไว้ 2.ตั้งคณะทำงานดูแลให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับคนไทยในกัมพูชา ขณะที่รายละเอียดนั้นต้องรอฟังรายงานจากสถานทูตอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยมีนโยบาย หรือคำสั่งในการค้นหาสืบหาข้อมูลลับแต่อย่างใด ซึ่งความเป็นไปได้ขณะนี้คือ ผู้ที่ทางการกัมพูชาอ้างว่าได้จับกุมไว้นั้น อาจรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ไทยเป็นการส่วนตัว เนื่องจากคนไทยที่ทำงานที่กัมพูชาก็มีสังคมร่วมกันอยู่บ้าง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องที่ทางการกัมพูชา ได้มีการจับกุมวิศวกรไทยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือบุคคลดังกล่าว โดยกำชับให้เข้าไปประสานงานกับกงสุลเพื่อระบุที่อยู่ เพื่อให้การช่วยเหลือโดยวิศวกรไทยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่คัดลอกเอกสารเกี่ยวกับเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปให้กับเลขานุการเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ทั้ง 2 คนจะรู้จักกันในฐานะเพื่อน และขอให้คนไทยในกัมพูชาระมัดระวังตนเองและพิจารณารับฟังข่าวสารจากกัมพูชา
ส่วนสถานการณ์ระหว่าง ไทย-กัมพูชานั้น นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์โดยตลอด และได้กำชับสถานทูตไทยในกัมพูชาไว้ 2 เรื่องคือ 1.ให้สถานทูตช่วยเหลือบุคคลที่กัมพูชาอ้างว่าจับกุมตัวไว้ 2.ตั้งคณะทำงานดูแลให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับคนไทยในกัมพูชา ขณะที่รายละเอียดนั้นต้องรอฟังรายงานจากสถานทูตอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยมีนโยบาย หรือคำสั่งในการค้นหาสืบหาข้อมูลลับแต่อย่างใด ซึ่งความเป็นไปได้ขณะนี้คือ ผู้ที่ทางการกัมพูชาอ้างว่าได้จับกุมไว้นั้น อาจรู้จักคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ไทยเป็นการส่วนตัว เนื่องจากคนไทยที่ทำงานที่กัมพูชาก็มีสังคมร่วมกันอยู่บ้าง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องที่ทางการกัมพูชา ได้มีการจับกุมวิศวกรไทยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือบุคคลดังกล่าว โดยกำชับให้เข้าไปประสานงานกับกงสุลเพื่อระบุที่อยู่ เพื่อให้การช่วยเหลือโดยวิศวกรไทยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่คัดลอกเอกสารเกี่ยวกับเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปให้กับเลขานุการเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ทั้ง 2 คนจะรู้จักกันในฐานะเพื่อน และขอให้คนไทยในกัมพูชาระมัดระวังตนเองและพิจารณารับฟังข่าวสารจากกัมพูชา
