นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมี นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ประจำจังหวัดทั่วประเทศ เข้าประชุม เพื่อรับทราบนโยบายการพัฒนางานของ สธ.ในปี 2553
นายวิทยา กล่าวว่า ได้มอบนโยบายเรื่องการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ทางสำนักระบาดวิทยาได้ประเมินว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม โรคนี้จะกลับมาระบาดอีกครั้ง เนื่องจากอากาศหนาวเย็น เชื้ออยู่ในอากาศได้นานขึ้น โดยตัวเลขผู้เคยป่วยและมีภูมิคุ้มกันในประเทศมีประมาณ 5 ล้านคน แต่อีกกว่า 6 ล้านคน มีความเสี่ยงติดเชื้อ สธ.จึงเตรียมความพร้อม 3 ด้านคือ 1. การเตรียมวัคซีน โดยวันนี้จะประชุมคณะกรรมการวัคซีนระดับชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 2. การรณรงค์ โดย สธ.จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งจะให้หน่วยงานของ สธ.ไปประสานร่วมรณรงค์ป้องกันรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 และ 3. เตรียมการรักษาพยาบาล โดยมอบให้ อสม.ทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่ให้ความรู้และเข้าถึงตัวผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต
สำหรับรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่มีผู้เสียชีวิต สาเหตุน่าจะมาจากประชาชนระมัดระวังป้องกันตนเองมากขึ้น และเข้าถึงระบบการรักษารวดเร็ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ แต่ตัวเลขในต่างประเทศน่ากังวลมากขึ้น เพราะผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ จีน อินเดีย เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโรคนี้ยังไม่ไปไหน สธ.จึงเตรียมความพร้อมรับมือตลอดเวลา
นายวิทยา กล่าวว่า ได้มอบนโยบายเรื่องการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ทางสำนักระบาดวิทยาได้ประเมินว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม โรคนี้จะกลับมาระบาดอีกครั้ง เนื่องจากอากาศหนาวเย็น เชื้ออยู่ในอากาศได้นานขึ้น โดยตัวเลขผู้เคยป่วยและมีภูมิคุ้มกันในประเทศมีประมาณ 5 ล้านคน แต่อีกกว่า 6 ล้านคน มีความเสี่ยงติดเชื้อ สธ.จึงเตรียมความพร้อม 3 ด้านคือ 1. การเตรียมวัคซีน โดยวันนี้จะประชุมคณะกรรมการวัคซีนระดับชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 2. การรณรงค์ โดย สธ.จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งจะให้หน่วยงานของ สธ.ไปประสานร่วมรณรงค์ป้องกันรับมือไข้หวัดใหญ่ 2009 และ 3. เตรียมการรักษาพยาบาล โดยมอบให้ อสม.ทั่วประเทศ ทำงานร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดลงพื้นที่ให้ความรู้และเข้าถึงตัวผู้ป่วยให้เร็วที่สุด เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว ป้องกันการเสียชีวิต
สำหรับรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่มีผู้เสียชีวิต สาเหตุน่าจะมาจากประชาชนระมัดระวังป้องกันตนเองมากขึ้น และเข้าถึงระบบการรักษารวดเร็ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ แต่ตัวเลขในต่างประเทศน่ากังวลมากขึ้น เพราะผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ จีน อินเดีย เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโรคนี้ยังไม่ไปไหน สธ.จึงเตรียมความพร้อมรับมือตลอดเวลา