พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จตุรงค์ พูมรินทร์ ผู้บังคับการปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) และตำรวจศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเงินกู้นอกระบบ นำหมายศาลมีนบุรีเข้าจับกุม นายสำเริง บุญแจ้ง อายุ 45 ปี ภายในหมู่บ้าน ซอย 6 ม.12 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ เรียกเก็บดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด และยังจับกุมลูกน้อง ซึ่งทำหน้าที่เก็บดอกเบี้ยอีก 5 คน
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่อายัดทรัพย์สินไว้หลายรายการ มีทั้งปืน เครื่องกระสุน มีดพก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 14 คัน จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านอีก 2 หลัง ภายในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งนางบุญเกิด ปานสูงเนิน ภรรยานายสำเริง เช่าไว้ให้ลูกน้องทวงหนี้พักอาศัย และจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 19 คน
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า นายสำเริง เป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ มีบ้านหลังดังกล่าวทำเป็นสำนักงานและเช่าบ้านไว้อีก 2 หลัง ให้ลูกน้องพักอาศัย เพื่อติดตามเร่งรัดหนี้สินที่ไปปล่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยจัดระบบการทำงานไว้อย่างดี เช่น ถ้าฝ่ายเร่งรัดออกไปตามทวงหนี้แล้วลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย จะมีฝ่ายใช้ความรุนแรงออกไป
ด้าน พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหากระจายเงินกู้นอกระบบไปตามที่ต่างๆ โดยให้ลูกน้องที่มีอยู่กว่า 20 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไปตามเก็บทั้งเงินต้นและดอกวันละ 400,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 10 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้นั้นมีหลายซีซี ขึ้นอยู่ว่าจะนำออกไปใช้งานในพื้นที่ใด
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์อีก 2 คัน เป็นป้ายแดง 1 คัน ที่ญาติและน้องชายของนายสำเริง ขับหลบหนีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามมาตรวจสอบ โดยทรัพย์สินทั้งหมดได้อายัดไว้ตรวจสอบหาที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้ง
พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่อายัดทรัพย์สินไว้หลายรายการ มีทั้งปืน เครื่องกระสุน มีดพก รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 14 คัน จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านอีก 2 หลัง ภายในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งนางบุญเกิด ปานสูงเนิน ภรรยานายสำเริง เช่าไว้ให้ลูกน้องทวงหนี้พักอาศัย และจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 19 คน
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า นายสำเริง เป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ มีบ้านหลังดังกล่าวทำเป็นสำนักงานและเช่าบ้านไว้อีก 2 หลัง ให้ลูกน้องพักอาศัย เพื่อติดตามเร่งรัดหนี้สินที่ไปปล่อยไป ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยจัดระบบการทำงานไว้อย่างดี เช่น ถ้าฝ่ายเร่งรัดออกไปตามทวงหนี้แล้วลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย จะมีฝ่ายใช้ความรุนแรงออกไป
ด้าน พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหากระจายเงินกู้นอกระบบไปตามที่ต่างๆ โดยให้ลูกน้องที่มีอยู่กว่า 20 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไปตามเก็บทั้งเงินต้นและดอกวันละ 400,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 10 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้นั้นมีหลายซีซี ขึ้นอยู่ว่าจะนำออกไปใช้งานในพื้นที่ใด
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์อีก 2 คัน เป็นป้ายแดง 1 คัน ที่ญาติและน้องชายของนายสำเริง ขับหลบหนีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามมาตรวจสอบ โดยทรัพย์สินทั้งหมดได้อายัดไว้ตรวจสอบหาที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้ง