บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์สถานการณ์ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นว่า ปัจจุบันการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา ดำเนินไปได้อย่างปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งครั้งนี้ เนื่องจากไทยและกัมพูชาไม่ได้ออกมาตรการปิดด่านการค้าชายแดนระหว่างกัน แต่หากสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวเลวร้ายลง มีความเป็นไปได้ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีบทบาทสำคัญ สัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของการค้ารวมระหว่างไทยกับกัมพูชา และอาจส่งผลกระทบรุนแรงมากขึ้นต่อการส่งออกของไทยไปกัมพูชา นับเป็นปัจจัยลบต่อโอกาสการขยายตลาดส่งออกของไทยไปกัมพูชาในระยะต่อไป และอาจส่งผลให้ไทยต้องสูญเสียตลาดสินค้าสำคัญๆ รวมถึงอาจทำให้คู่แข่งทางการค้าของไทย เข้าไปเจาะตลาดสินค้าในเวียดนามได้มากขึ้น ที่สำคัญได้แก่ เวียดนาม และจีน แม้ว่าในปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากไทยค่อนข้างสูงก็ตาม
สำหรับการส่งออกสำคัญของไทยไปกัมพูชา 10 อันดับแรกประกอบด้วย น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย ปูนซีเมนต์ เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และผ้าผืน
สำหรับการส่งออกสำคัญของไทยไปกัมพูชา 10 อันดับแรกประกอบด้วย น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย ปูนซีเมนต์ เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และผ้าผืน