วันนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) กรมการค้าภายใน และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยมีวาระการประชุมเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการกระทำความผิดของผู้ประกอบการที่เอาเปรียบการจำหน่ายสินค้า
พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเน้นการทำงานเชิงรุก เริ่มจากการนำเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมาย ที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้า และบริการปี 2542 โดยนำร่องสถานบริการประเภทคคาราโอเกะ และสถานบริการที่ถูกร้องเรียน
สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า หากตรวจพบจะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และหากจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับราคาที่แสดงไว้ มีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หมายเลขโทรศัพท์ 02.513-7111 หรือ กรมการค้าภายใน 1569 และ สคบ.1166
พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเน้นการทำงานเชิงรุก เริ่มจากการนำเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมาย ที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้า และบริการปี 2542 โดยนำร่องสถานบริการประเภทคคาราโอเกะ และสถานบริการที่ถูกร้องเรียน
สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า หากตรวจพบจะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และหากจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าไม่ตรงกับราคาที่แสดงไว้ มีโทษจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งประชาชนสามารถร้องเรียนได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หมายเลขโทรศัพท์ 02.513-7111 หรือ กรมการค้าภายใน 1569 และ สคบ.1166