กระทรวงศึกษาธิการของอิสราเอลเรียกคืนแบบเรียนวิชาประวัติศาสตร์เนื่องจากมีข้อความหนึ่งระบุว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ช่วงสงครามปี 2491
หนังสือพิมพ์ฮาอาเร็ตซ์รายงานว่า กระทรวงเรียกเก็บแบบเรียนดังกล่าวในระดับมัธยมศึกษาเกรด 11 และ 12 ที่เสนอทัศนะทั้งฝ่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์ต่อเหตุการณ์ชาวปาเลสไตน์ 750,000 คนอพยพหนีการสู้รบที่ปะทุขึ้นหลังการก่อตั้งรัฐอิสราเอลหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทรวงไม่พอใจข้อความที่ว่า "ชาวปาเลสไตน์และชาติอาหรับยืนยันว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกทำร้ายและขับไล่ออกจากบ้านเรือนของตนเองโดยกองกำลังติดอาวุธชาวยิวที่ดำเนินนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" จะมีการแก้ไขเนื้อหาดังกล่าวก่อนนำออกวางจำหน่ายใหม่
ส่วนทัศนะฝ่ายอิสราเอลที่บรรจุอยู่ในแบบเรียนระบุว่า "ชาวปาเลสไตน์อพยพไปเองตามคำสั่งของประเทศอาหรับ หรือแตกตื่นตามข่าวของสถานีวิทยุอาหรับ ชะตากรรมของผู้อพยพและลูกหลานชาวปาเลสไตน์ 4.6 ล้านคนที่กระจัดกระจายไปทั่วตะวันออกกลางยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้งร้าวลึกของภูมิภาคนี้"
หนังสือพิมพ์ฮาอาเร็ตซ์รายงานว่า กระทรวงเรียกเก็บแบบเรียนดังกล่าวในระดับมัธยมศึกษาเกรด 11 และ 12 ที่เสนอทัศนะทั้งฝ่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์ต่อเหตุการณ์ชาวปาเลสไตน์ 750,000 คนอพยพหนีการสู้รบที่ปะทุขึ้นหลังการก่อตั้งรัฐอิสราเอลหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 กระทรวงไม่พอใจข้อความที่ว่า "ชาวปาเลสไตน์และชาติอาหรับยืนยันว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกทำร้ายและขับไล่ออกจากบ้านเรือนของตนเองโดยกองกำลังติดอาวุธชาวยิวที่ดำเนินนโยบายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" จะมีการแก้ไขเนื้อหาดังกล่าวก่อนนำออกวางจำหน่ายใหม่
ส่วนทัศนะฝ่ายอิสราเอลที่บรรจุอยู่ในแบบเรียนระบุว่า "ชาวปาเลสไตน์อพยพไปเองตามคำสั่งของประเทศอาหรับ หรือแตกตื่นตามข่าวของสถานีวิทยุอาหรับ ชะตากรรมของผู้อพยพและลูกหลานชาวปาเลสไตน์ 4.6 ล้านคนที่กระจัดกระจายไปทั่วตะวันออกกลางยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้งร้าวลึกของภูมิภาคนี้"
