นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีอดีตนายทหารและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดคำถามว่าวันนี้ทำไมคนจึงเข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเป็นปัญหาอย่างที่คนบางคนว่า ตรงกันข้ามแสดงชัดว่าทหารไม่ได้จงเกลียดจงชังพรรคเพื่อไทย ประกอบกับปัจจุบันปรากฏชัดว่าประชาชนให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทย โอกาสชนะการเลือกตั้งก็มีสูง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์การที่คนนอกจะเข้าไปไม่ใช่เรื่องง่าย หรือพรรคภูมิใจไทยก็เช่นเดียวกัน แต่พรรคเพื่อไทยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับตนจึงไม่แปลกใจถ้าจะมีคนมาร่วมงานเพิ่มขึ้น และตนอยากให้ตับตาดูหลังจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมา การเมืองจะเปลี่ยนไป โดยการเปลี่ยนน่าจะเป็นแนวที่ พล.อ.ชวลิต ต้องการ
อย่างไรก็ตาม นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่ได้ระแวงว่าจะเป็นแผนสลายพรรค เพราะไม่ใช่ทหารเท่านั้นที่จะเป็นไส้ศึก พลเรือนก็ตัวดี สำหรับพรรคเพื่อไทยเป้าหมายคือต้องการความสมานฉันท์ ดังนั้นใครเข้ามาแล้วจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นก็พร้อมเปิดรับ ส่วนใครเข้ามาแล้วจะมีกลุ่มก๊วนก็เป็นธรรมดา เพราะโดยธรรมชาติของพรรคการเมืองเมื่อใครต้องการมีอำนาจก็ต้องทำตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ สิ่งนี้คือระบบเสรี ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่ใช่การผูกขาด
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต จะเดินทาง เยือนกัมพูชา เพื่อพบสมเด็จฮุน เซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นการเดินทางไปในฐานะส่วนตัว ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ได้แจ้งเป็นการภายในกับพรรคเพื่อไทยแล้ว รวมถึงได้แจ้งกับนายเอริค จี.จอห์น เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระหว่างเข้าพบเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ชวลิต ระบุว่าการรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญต่อไทย โดยเป็นการไปพบในฐานะเพื่อนเก่าที่มีความใกล้ชิด เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ไม่ได้ระบุว่ามีประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ตามที่ ผ่านมา พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบสมเด็จฮุน เซน เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะไปตอนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์การที่คนนอกจะเข้าไปไม่ใช่เรื่องง่าย หรือพรรคภูมิใจไทยก็เช่นเดียวกัน แต่พรรคเพื่อไทยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับตนจึงไม่แปลกใจถ้าจะมีคนมาร่วมงานเพิ่มขึ้น และตนอยากให้ตับตาดูหลังจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมา การเมืองจะเปลี่ยนไป โดยการเปลี่ยนน่าจะเป็นแนวที่ พล.อ.ชวลิต ต้องการ
อย่างไรก็ตาม นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่ได้ระแวงว่าจะเป็นแผนสลายพรรค เพราะไม่ใช่ทหารเท่านั้นที่จะเป็นไส้ศึก พลเรือนก็ตัวดี สำหรับพรรคเพื่อไทยเป้าหมายคือต้องการความสมานฉันท์ ดังนั้นใครเข้ามาแล้วจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นก็พร้อมเปิดรับ ส่วนใครเข้ามาแล้วจะมีกลุ่มก๊วนก็เป็นธรรมดา เพราะโดยธรรมชาติของพรรคการเมืองเมื่อใครต้องการมีอำนาจก็ต้องทำตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ สิ่งนี้คือระบบเสรี ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพราะไม่ใช่การผูกขาด
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต จะเดินทาง เยือนกัมพูชา เพื่อพบสมเด็จฮุน เซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นการเดินทางไปในฐานะส่วนตัว ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ได้แจ้งเป็นการภายในกับพรรคเพื่อไทยแล้ว รวมถึงได้แจ้งกับนายเอริค จี.จอห์น เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ระหว่างเข้าพบเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ชวลิต ระบุว่าการรักษาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญต่อไทย โดยเป็นการไปพบในฐานะเพื่อนเก่าที่มีความใกล้ชิด เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ไม่ได้ระบุว่ามีประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ตามที่ ผ่านมา พล.อ.ชวลิต เดินทางไปพบสมเด็จฮุน เซน เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะไปตอนเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย