นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเสวนา "ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง" ระหว่างการลงพื้นที่พบปะประชาชนใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในโครงการโฆษกสัญจร ครั้งที่ 4 ว่า โครงการไทยเข้มแข็งเป็นนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากในการดำเนินการเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง โดยการที่รัฐบาลเข้าไปลงทุนในโครงการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน
นอกจากนี้ นายวัชระ กล่าวด้วยว่า การเมืองของไทยที่มีความขัดแย้ง แบ่งสีชัดเจน และตรวจสอบกันอย่างเข้มข้นนั้น เป็นการก้าวเข้าสู่การพัฒนาทางการเมือง โดยฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในการใช้งบประมาณในการลงทุนโครงการต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าไม่ว่าสีใดมาเป็นรัฐบาล จะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์
ด้านนายแพทย์ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยมีการเพิ่มงบประมาณเข้าสู่โครงการ เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับประชาชน รวมถึงโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้ง แต่จะไม่มีการยกเลิก เนื่องจากเป็นโครงการที่ดี และประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงกระแสการทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยแสดงความมั่นใจว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และได้ดำเนินการสืบค้นหาต้นตอการทุจริตในโครงการ พร้อมยืนยันว่า โครงการดังกล่าวยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการเตรียมการที่จะทุจริต ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบการทุจริตในโครงการต่างๆ ให้แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ นายวัชระ กล่าวด้วยว่า การเมืองของไทยที่มีความขัดแย้ง แบ่งสีชัดเจน และตรวจสอบกันอย่างเข้มข้นนั้น เป็นการก้าวเข้าสู่การพัฒนาทางการเมือง โดยฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลในการใช้งบประมาณในการลงทุนโครงการต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าไม่ว่าสีใดมาเป็นรัฐบาล จะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์
ด้านนายแพทย์ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยมีการเพิ่มงบประมาณเข้าสู่โครงการ เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับประชาชน รวมถึงโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้ง แต่จะไม่มีการยกเลิก เนื่องจากเป็นโครงการที่ดี และประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง
พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงกระแสการทุจริตโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยแสดงความมั่นใจว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว และได้ดำเนินการสืบค้นหาต้นตอการทุจริตในโครงการ พร้อมยืนยันว่า โครงการดังกล่าวยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่เป็นเพียงการเตรียมการที่จะทุจริต ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบการทุจริตในโครงการต่างๆ ให้แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
