หลาย จว.น้ำท่วมหนัก บ้านเรือน-พื้นที่การเกษตรเสียหายเพียบ

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.กาญจนบุรี ยังน่าเป็นห่วง หลังจากที่น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขา เอ่อเข้าท่วมในพื้นที่ อ.บ่อพลอย ห้วยกระเจา และเลาขวัญ ซึ่งมีน้ำท่วมสูงสุด 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร โดยเฉพาะที่ว่าการอำเภอเลาขวัญ ต้องใช้เรือท้องแบนสัญจร และจากการสำรวจล่าสุดพบว่า มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 17 ตำบล 80 หมู่บ้าน 7,100 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเกือบ 50,000 ไร่ใน 3 อำเภอ ถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาด 274 สาย วัด โรงเรียน สถานที่ราชการถูกน้ำท่วมหลายแห่ง ราษฎรป่วยด้วยโรคตาแดง และโรคผื่นคัน 121 คน เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกับนำถุงยังชีพไปแจกให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนแล้ว
ส่วนที่สุพรรณบุรี แม่น้ำท่าจีนยังเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมน้ำใน ต.บางหลวง ลำพญา บางระกำใน อ.บางเลน และในพื้นที่ของ อ.กำแพงแสน แต่ระดับน้ำเริ่มลดลง มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 779 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร และบ่อปลาได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ขณะที่ จ.ชัยนาท ระดับน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากน้ำที่ไหลลงมาจาก จ.นครสวรรค์ และน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ที่ไหลไปสมทบ แต่ว่ายังไม่ส่งผลกระทบกับราษฎรในพื้นที่ ขณะที่ชาวบ้านหนองระกำ หมู่ 6 ต.เนินขาม อ.เนินขาม ซึ่งถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วม ยังไม่ได้ขนสิ่งของย้ายกลับเข้าบ้าน เพราะเกรงว่า น้ำป่าจะเข้าท่วมซ้ำ
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยาลดลงเรื่อยๆ หลังจากที่ระบายลงคลองบางแก้ว แต่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำลพบุรียังทรงตัว เนื่องจากน้ำคลองบางแก้วหนุนสูง จึงทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.มหาราช ระดับน้ำบางพื้นที่สูง 50-60 เซนติเมตร อ.บางบาล มีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ส่วนอำเภออื่นๆ นั้น น้ำลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว