ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารสำนักระบายน้ำ กทม. ตรวจปริมาณน้ำท่วมขังที่ถนนทรงวาด และท่าน้ำราชวงศ์ ที่มีปริมาณน้ำเอ่อล้นประมาณ 20-30 เซ็นติเมตร จากนั้น ลงเรือดูระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองบางกอกน้อย ซึ่งเช้าวันนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นสูง 1.80 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปริมาณน้ำขึ้นสูงในช่วงนี้ มาจากน้ำทะเลหนุน และปริมาณน้ำฝนจากอิทธิพลพายุกิสนา ทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้น จะส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นในพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ที่ยังไม่มีเขื่อนกั้นน้ำถาวร มีประชาชนในพื้นที่ 28 ชุมชน 1,353 ครัวเรือน ใน 9 เขต ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้งบประมาณแล้ว 380 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ริมเจ้าพระยา 7 กิโลเมตร ที่เหลือ ซึ่งจะเร่งก่อสร้างให้เสร็จภายในปี 2553
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเดือนตุลาคมนี้ วันที่จะต้องจับตาดูระดับน้ำทะเลหนุนที่จะขึ้นสูงสุด คือ วันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าน้ำจะขึ้นสูงประมาณ 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะนี้สำนักระบายน้ำได้วางกระสอบทรายไว้แล้ว 4.2 ล้านกระสอบ ความสูง 2.2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ปริมาณน้ำขึ้นสูงในช่วงนี้ มาจากน้ำทะเลหนุน และปริมาณน้ำฝนจากอิทธิพลพายุกิสนา ทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้น จะส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นในพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ที่ยังไม่มีเขื่อนกั้นน้ำถาวร มีประชาชนในพื้นที่ 28 ชุมชน 1,353 ครัวเรือน ใน 9 เขต ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้งบประมาณแล้ว 380 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ริมเจ้าพระยา 7 กิโลเมตร ที่เหลือ ซึ่งจะเร่งก่อสร้างให้เสร็จภายในปี 2553
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเดือนตุลาคมนี้ วันที่จะต้องจับตาดูระดับน้ำทะเลหนุนที่จะขึ้นสูงสุด คือ วันที่ 18 ตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าน้ำจะขึ้นสูงประมาณ 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ขณะนี้สำนักระบายน้ำได้วางกระสอบทรายไว้แล้ว 4.2 ล้านกระสอบ ความสูง 2.2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่