นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาการประกันราคาสินค้าเกษตรด้วยการเร่งรัดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยผ่อนปรนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ได้จำหน่ายข้าวโพดก่อนการทำสัญญาแล้วบางส่วน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นช่วงรอยต่อของการเริ่มโครงการดังกล่าว จึงอนุโลมให้สามารถทำสัญญาประกันสินค้ากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ สำหรับการรับรองข้อมูลเกษตรกรว่าเป็นผู้ปลูกพืชเกษตรทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง ข้าวเปลือก จริงหรือไม่ มอบหมายให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ดำเนินการโดยตรง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส.ปรับปรุงระบบการแจ้งเงินชดเชยที่จะส่งคืนให้เกษตรกร จากเดิมใช้เวลา 7-8 วัน เหลือ 2-3 วัน ส่วนการส่งมอบข้อมูลการลงทะเบียนเกษตรกร พบว่า ไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด โดยกระทรวงเกษตรฯ ต้องส่งมอบข้อมูลจดทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ ธ.ก.ส.ภายในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่กระทรวงเกษตรฯ ส่งมอบข้อมูลไม่แล้วเสร็จ โดยข้อมูลผู้ปลูกข้าวโพดดำเนินการได้เพียงร้อยละ 77.82 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ข้อมูลผู้ปลูกมันสำปะหลังส่งให้เพียงร้อยละ 76.47 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ส่งผลให้การทำสัญญากับเกษตรกรล่าช้า โดยขณะนี้ ธ.ก.ส.ทำสัญญากับผู้ปลูกข้าวโพดได้เพียง 6,187 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่จดทะเบียนแล้ว
นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส.ปรับปรุงระบบการแจ้งเงินชดเชยที่จะส่งคืนให้เกษตรกร จากเดิมใช้เวลา 7-8 วัน เหลือ 2-3 วัน ส่วนการส่งมอบข้อมูลการลงทะเบียนเกษตรกร พบว่า ไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด โดยกระทรวงเกษตรฯ ต้องส่งมอบข้อมูลจดทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ ธ.ก.ส.ภายในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา แต่กระทรวงเกษตรฯ ส่งมอบข้อมูลไม่แล้วเสร็จ โดยข้อมูลผู้ปลูกข้าวโพดดำเนินการได้เพียงร้อยละ 77.82 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ข้อมูลผู้ปลูกมันสำปะหลังส่งให้เพียงร้อยละ 76.47 ของเกษตรกรผู้จดทะเบียน ส่งผลให้การทำสัญญากับเกษตรกรล่าช้า โดยขณะนี้ ธ.ก.ส.ทำสัญญากับผู้ปลูกข้าวโพดได้เพียง 6,187 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่จดทะเบียนแล้ว