นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หนึ่งใน ส.ส.ที่ยื่นคำร้องให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องพิจารณาวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่ตราขึ้นนั้น ถูกต้องตามมาตรา 167 วรรคหนึ่งหรือไม่ว่า เมื่อศาลไม่รับคำร้องก็ไม่รู้จะไปยื่นอุทธรณ์ที่ไหนได้ เมื่อวินิจฉัยออกมาเช่นนี้จะต้องน้อมรับ ซึ่งจะได้ถือเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติต่อไป เพราะเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอตั้งขอสังเกตวิธีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยเฉพาะในวาระที่ 1 วาระที่ 2 และวาระที่ 3 จะมีรายละเอียดให้พิจารณา แต่ในชั้นการแปรญัตติเพิ่มเติมของงบประมาณปี 2553 ของคณะกรรมาธิการในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ไม่ได้นำเสนอรายละเอียดแผนงานและโครงการในแต่ละรายการของการใช้จ่ายงบประมาณที่คณะกรรมาธิการได้ปรับลดลงไปกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ให้หน่วยราชการต่างๆ ไปใช้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีรายละเอียดใดๆ ให้พิจารณา ดังนั้น ในอนาคตหากมีการทุจริตหรือโยกย้ายงบประมาณที่ผิดขั้นตอนจนได้รับความเสียหายแก่ประเทศชาติ ใครจะรับผิดชอบ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอตั้งขอสังเกตวิธีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยเฉพาะในวาระที่ 1 วาระที่ 2 และวาระที่ 3 จะมีรายละเอียดให้พิจารณา แต่ในชั้นการแปรญัตติเพิ่มเติมของงบประมาณปี 2553 ของคณะกรรมาธิการในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ไม่ได้นำเสนอรายละเอียดแผนงานและโครงการในแต่ละรายการของการใช้จ่ายงบประมาณที่คณะกรรมาธิการได้ปรับลดลงไปกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ให้หน่วยราชการต่างๆ ไปใช้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีรายละเอียดใดๆ ให้พิจารณา ดังนั้น ในอนาคตหากมีการทุจริตหรือโยกย้ายงบประมาณที่ผิดขั้นตอนจนได้รับความเสียหายแก่ประเทศชาติ ใครจะรับผิดชอบ
