น.พ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงการรับมือพายุกิสนาว่า ได้เตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ทั้งรถพยาบาลฉุกเฉิน บุคลากร อุปกรณ์และยา โดยแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว 3 วัน โดยเฉพาะจังหวัดที่มีความเสี่ยงได้แก่ อุบลราชธานี ที่มีฝนตกหนักใน 25 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ ฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรปรอท จึงเตรียมการอพยพประชากรออกจากพื้นที่ ส่วนที่ อ.โขงเจียม เกิดลมพัดแรง มีต้นไม้และบ้านประชาชนเสียหาย 1 หลัง แต่ยังไม่พบผู้บาดเจ็บ
นอกจากนี้ สั่งการให้ศูนย์สั่งการทุกจังหวัดเตรียมพร้อม ส่งข้อความด่วนแจ้งความคืบหน้าผ่านทางโทรศัพท์ให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขจังหวัด ในจังหวัดที่เสี่ยงทราบความคืบหน้าตลอดเวลา เพื่อการเตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉิน และการเตรียมพร้อมตั้งแต่ทีมกู้ชีพระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด โดยทีมกู้ชีพระดับจังหวัดจะมีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นๆ ระดับอำเภอมีโรงพยาบาลชุมชน และระดับตำบล มีทีม 1 ตำบล 1 กู้ชีพกู้ภัย และขอให้จังหวัดมีการรายงานเป็นระยะๆ ด้วย
นอกจากนี้ สั่งการให้ศูนย์สั่งการทุกจังหวัดเตรียมพร้อม ส่งข้อความด่วนแจ้งความคืบหน้าผ่านทางโทรศัพท์ให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขจังหวัด ในจังหวัดที่เสี่ยงทราบความคืบหน้าตลอดเวลา เพื่อการเตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉิน และการเตรียมพร้อมตั้งแต่ทีมกู้ชีพระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด โดยทีมกู้ชีพระดับจังหวัดจะมีโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลประจำจังหวัดนั้นๆ ระดับอำเภอมีโรงพยาบาลชุมชน และระดับตำบล มีทีม 1 ตำบล 1 กู้ชีพกู้ภัย และขอให้จังหวัดมีการรายงานเป็นระยะๆ ด้วย