พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 จำนวน 10,000 ล้านบาท ให้กับกระทรวงกลาโหม ก็เพื่อการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทธโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพ และเพื่อพัฒนาให้แต่ละเหล่าทัพมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับข้อห่วงใยที่ว่า ทำไมต้องเป็นการจัดซื้อแบบตรงกับบริษัทนั้น ราคาไม่ได้แพงขึ้นกว่าเดิม แต่กลับมีราคาถูกลงเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการจัดซื้อแบบตรง คือ ไม่เป็นหุ้นส่วนทางด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา ไม่เหมือนกับการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า การจัดซื้อยุทธโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพครั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงและเพื่อความมั่นคงของชาติ กองทัพมีความจำเป็นที่จะต้องจัดซื้อ เนื่องจากในแถบประเทศเพื่อนบ้าน มีการพัฒนาและสะสมอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สำหรับข้อห่วงใยที่ว่า ทำไมต้องเป็นการจัดซื้อแบบตรงกับบริษัทนั้น ราคาไม่ได้แพงขึ้นกว่าเดิม แต่กลับมีราคาถูกลงเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการจัดซื้อแบบตรง คือ ไม่เป็นหุ้นส่วนทางด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา ไม่เหมือนกับการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวด้วยว่า การจัดซื้อยุทธโธปกรณ์ของแต่ละเหล่าทัพครั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงและเพื่อความมั่นคงของชาติ กองทัพมีความจำเป็นที่จะต้องจัดซื้อ เนื่องจากในแถบประเทศเพื่อนบ้าน มีการพัฒนาและสะสมอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา