รายงานรัฐสภาอเมริกันระบุ สหรัฐฯกลายเป็นชาติที่ขายอาวุธให้กับประเทศต่างๆ มากที่สุดในโลก โดยสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดการค้าอาวุธทั่วโลกได้มากถึง 2 ใน 3 แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานทางเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์(6) โดยอ้างผลการศึกษาเรื่องการเคลื่อนย้ายอาวุธประเภทตามแบบแผนไปยังประเทศกำลังพัฒนา (Conventional Arms transfers to Developing Nations) ฉบับล่าสุดของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า สหรัฐฯได้ลงนามทำข้อตกลงขายอาวุธเป็นมูลค่าสูงถึง 37,800ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาทในปี2008 อันเป็นปีที่ยอดขายอาวุธตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี โดยสัดส่วนการขายอาวุธของสหรัฐฯคิดเป็นร้อยละ 68.4 ของตลาดการค้าอาวุธทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากยอดขาย 25,400 ล้านบาท หรือราว 863,600 ล้านบาทเมื่อปี 2007
ผลการศึกษาประจำปีฉบับดังกล่าว ซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมาธิการด้านการวิจัยของรัฐสภา ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสำนักหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ และได้ถูกนำส่งไปยังวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ตั้งแต่วันศุกร์(4)ที่ผ่านมา ยังระบุด้วยว่าการที่สหรัฐฯมียอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อปีที่แล้ว แม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกนั้น สาเหตุสำคัญเป็นเพราะมีคำสั่งซื้ออาวุธใหม่ๆ จากลูกค้าในแถบตะวันออกใกล้และเอเชีย รวมทั้งการที่สหรัฐฯ มีสัญญาแบบผูกพันต่อเนื่องในการขายอุปกรณ์ และบริการเสริมหลังการขายกับลูกค้าจากทั่วโลก
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า นอกจากสหรัฐฯ จะได้ชื่อว่า เป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว สหรัฐฯยังเป็นประเทศผู้ขายอาวุธให้กับชาติกำลังพัฒนามากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยมีการทำข้อตกลงขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนาเป็นวงเงิน 29,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1 ล้านล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70.1 ของการขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานทางเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์(6) โดยอ้างผลการศึกษาเรื่องการเคลื่อนย้ายอาวุธประเภทตามแบบแผนไปยังประเทศกำลังพัฒนา (Conventional Arms transfers to Developing Nations) ฉบับล่าสุดของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า สหรัฐฯได้ลงนามทำข้อตกลงขายอาวุธเป็นมูลค่าสูงถึง 37,800ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาทในปี2008 อันเป็นปีที่ยอดขายอาวุธตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี โดยสัดส่วนการขายอาวุธของสหรัฐฯคิดเป็นร้อยละ 68.4 ของตลาดการค้าอาวุธทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากยอดขาย 25,400 ล้านบาท หรือราว 863,600 ล้านบาทเมื่อปี 2007
ผลการศึกษาประจำปีฉบับดังกล่าว ซึ่งจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมาธิการด้านการวิจัยของรัฐสภา ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดของสำนักหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ และได้ถูกนำส่งไปยังวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ตั้งแต่วันศุกร์(4)ที่ผ่านมา ยังระบุด้วยว่าการที่สหรัฐฯมียอดขายอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อปีที่แล้ว แม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกนั้น สาเหตุสำคัญเป็นเพราะมีคำสั่งซื้ออาวุธใหม่ๆ จากลูกค้าในแถบตะวันออกใกล้และเอเชีย รวมทั้งการที่สหรัฐฯ มีสัญญาแบบผูกพันต่อเนื่องในการขายอุปกรณ์ และบริการเสริมหลังการขายกับลูกค้าจากทั่วโลก
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า นอกจากสหรัฐฯ จะได้ชื่อว่า เป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว สหรัฐฯยังเป็นประเทศผู้ขายอาวุธให้กับชาติกำลังพัฒนามากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยมีการทำข้อตกลงขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนาเป็นวงเงิน 29,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1 ล้านล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70.1 ของการขายอาวุธให้ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด