นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของคณะอนุกรรมการไต่สวนเหตุสลายการชุมนุม และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยที่ประชุมมีมติ 8 ต่อ 1 ชี้มูลความผิดคดีอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฐานสั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุม
ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น ถือว่ามีความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง
ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาอีก 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ และ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ถูกชี้มูลความผิด เนื่องจากทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกชี้มูลความผิดทางคดีอาญา ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอยู่ในเวลาดำเนินการ 7-15 วัน ส่วนความผิดทางวินัยร้ายแรง จะส่งเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาภายใน 3 วัน
ส่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น ถือว่ามีความผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง
ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาอีก 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ และ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ถูกชี้มูลความผิด เนื่องจากทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกชี้มูลความผิดทางคดีอาญา ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะอยู่ในเวลาดำเนินการ 7-15 วัน ส่วนความผิดทางวินัยร้ายแรง จะส่งเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาภายใน 3 วัน