ช่วงเช้าที่ผ่านมา แรงงานไทยที่กลับจากประเทศสวีเดน ที่เคยชุมนุมขอความเป็นธรรมกว่า 100 คน รวมตัวกันเพื่อลงนามในหนังสือขอความเป็นธรรม และยื่นให้กับคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอคืนค่าจัดส่งแรงงานไปทำงาน ที่ต้องจ่ายไปคนละ 80,000-100,000 บาท โดยไม่คุ้มกับค่าแรงที่ได้รับในสัญญาจ้าง 70 วัน
พร้อมระบุว่า ไม่เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาของกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเคยมีแรงงานไปทำงานต่างประเทศเดือดร้อน และพอร้องเรียนก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมจนเรื่องเงียบหาย โดยหลังจากยื่นข้อเรียกร้อง จะเดินทางไปแจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ด้วย
ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียน และรับปากว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งมองว่า เป็นปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะมีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาชี้แจง เพราะปกติ ไทยไม่ได้โควต้าไปทำงานในยุโรปอยู่แล้ว รวมทั้งจะนำเรื่องนี้เป็นวาระด่วนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ยังมีแรงงานไทยไปรับจ้างเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดน อีกประมาณ 5,000 คน ที่ยังตกค้างและต้องการกลับประเทศ เพราะมีรายได้ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย ซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงขั้นรวมตัวกันนำรถของนายจ้างออกมาเพื่อจะหนีจากแคมป์คนงานและต้องการไปสนามบิน
พร้อมระบุว่า ไม่เชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาของกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเคยมีแรงงานไปทำงานต่างประเทศเดือดร้อน และพอร้องเรียนก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมจนเรื่องเงียบหาย โดยหลังจากยื่นข้อเรียกร้อง จะเดินทางไปแจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ด้วย
ด้านนายสถาพร มณีรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียน และรับปากว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ซึ่งมองว่า เป็นปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะมีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาชี้แจง เพราะปกติ ไทยไม่ได้โควต้าไปทำงานในยุโรปอยู่แล้ว รวมทั้งจะนำเรื่องนี้เป็นวาระด่วนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ยังมีแรงงานไทยไปรับจ้างเก็บผลไม้ป่าที่สวีเดน อีกประมาณ 5,000 คน ที่ยังตกค้างและต้องการกลับประเทศ เพราะมีรายได้ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย ซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ถึงขั้นรวมตัวกันนำรถของนายจ้างออกมาเพื่อจะหนีจากแคมป์คนงานและต้องการไปสนามบิน